อิหร่าน-รัสเซีย จับมือฝึกซ้อมรบในมหาสมุทรอินเดีย

Russia Iran Drill

อิหร่านและรัสเซีย ร่วมกับทำการฝึกซ้อมรบทางทะเลในพื้นที่ตอนเหนือของมหาสมุทรอินเดีย โดยกองทัพทั้งสองประเทศอ้างว่า เป็นความร่วมมือ “เพื่อยกระดับความปลอดภัย” สำหรับการทำการค้าทางทะเลในภูมิภาคนั้น ตามรายงานของสื่อทางการอิหร่าน

สถานีโทรทัศน์อิหร่าน รายงานว่า การซ้อมรบที่จัดขึ้นในวันอังคาร และมีชื่อว่า Maritime Security Belt ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดราว 17,000 ตารางกิโลเมตรและมีผู้เข้าร่วมซ้อมรบจาก กองทัพเรืออิหร่าน กองทัพเรือจากกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (Islamic Revolutionary Guards Corps – IRGC) และกองทัพเรือรัสเซีย

พลเรือตรี โกลัมเรซา ทาฮานี ของอิหร่าน กล่าวว่า จุดประสงค์ของการร่วมซ้อมรบนี้คือ “เพื่อยกระดับการรักษาความปลอดภัยสำหรับการค้าขายในน่านน้ำสากล เพื่อต่อสู้กับการก่อการร้ายทางทะเลและกองโจรสลัด และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน”

พลเรือตรี ทาฮานี กล่าวเสริมด้วยว่า กองทัพเรืออินเดียจะเข้าร่วมการฝึกซ้อมรบด้วย เพื่อส่งเสริมสันติภาพและมิตรภาพของประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้

สื่อทางการอิหร่าน IRNA เปิดเผยว่า กำหนดการซ้อมรบทางทะเลนั้นจะยาวนานเป็นเวลา 3 วัน โดยครั้งนี้ เป็นการร่วมซ้อมรบครั้งที่ 2 ระหว่างอิหร่านและรัสเซีย นับตั้งเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2019 เมื่อทั้งสองประเทศร่วมกับจีนทำการซ้อมรบทางทะเลในมหาสมุทรอินเดียและอ่าวโอมาน

อิหร่านและจีนยังได้ร่วมทำการซ้อมรบในรัสเซียเมื่อเดือนธันวาคมของปีที่แล้วด้วย

ทั้งนี้ อิหร่านเฝ้าพยายามหาทางยกระดับความร่วมมือทางทหารกับจีนและรัสเซียมาตลอด ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกรุงเตหะรานและรัฐบาลกรุงวอชิงตันยังอยู่ในภาวะตึงเครียด

ก่อนที่รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะหมดวาระลง อิหร่านยังได้เร่งทำการซ้อมรบทางทหารหลายครั้ง และในเวลานี้ รัฐบาลกรุงเตหะรานพยายามกดดันให้รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดี โจ ไบเดน กลับเข้ามาร่วมข้อตกลงอาวุธนิวเคลียร์ที่เคยทำไว้กับอิหร่านและประเทศมหาอำนาจอื่นๆ ด้วย

รัฐบาลของปธน.ไบเดนเองได้แสดงความยินดีที่จะกลับเข้าร่วมข้อตกลงนี้ ที่รัฐบาลชุดก่อนถอนตัวออกมา โดยมีเงื่อนไขว่า อิหร่านยอมทำตามเงื่อนไขในข้อตกลงดังกล่าว ก่อนจะมาทำงานร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วนทั้งหลายของสหรัฐฯ ทั้งหลายเพื่อบรรลุข้อตกลงที่ “มีอายุยืนนานและมีความเข้มข้นมากขึ้น” ทั้งด้านโครงการขีปนาวุธของอิหร่านและการอิหร่านให้การสนับสนุนต่อกองกำลังตัวแทนทั้งหลายในภูมิภาคตะวันออกกลาง