หน่วยงานด้านพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ International Atomic Energy Agency (IAEA) รายงานว่า ปริมาณแร่ยูเรเนียมที่ผ่านการเสริมคุณภาพในคลังของประเทศอิหร่าน พุ่งสูงขึ้นเกินระดับที่ระบุไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ลงนามไว้กับ 6 ประเทศมหาอำนาจในปี ค.ศ. 2015
IAEA ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของสหประชาชาติ กล่าวในวันอังคารว่า ปริมาณแร่ยูเรเนียมคุณภาพของอิหร่านเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และยังมีคลังเก็บแร่ยูเรเนียมคุณภาพที่ไม่ได้เปิดเผยมาก่อน อีก 3 แห่ง ซึ่งไม่อนุญาตให้ทางหน่วยงานเข้าตรวจสอบ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลกรุงเตหะรานออกมาให้ความกระจ่างในเรื่องนี้
อย่างไรก็ดี อิหร่านออกมาบอกก่อนหน้านี้ว่า จะไม่ทำตามข้อตกลงที่ลงนามไว้กับ 6 ประเทศมหาอำนาจ ซึ่งสหรัฐฯ ถอนตัวออกมาในปี ค.ศ. 2018 ก่อนจะออกมาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่เพื่อลงโทษแทน
อิหร่านบอกด้วยว่า จะยอมกลับเข้าสู่เงื่อนไขของข้อตกลงที่เคยทำไว้ หากยุโรปเสนอผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ “มีนัยสำคัญ” พร้อมๆ กับกล่าวว่า เยอรมนี ฝรั่งเศส และอังกฤษ ยังไม่ได้ทำการใดๆ ที่จะช่วยอิหร่านจากผลกระทบของมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ เลย
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญบางรายให้ความเห็นว่า ปริมาณแร่ยูเรเนียมคุณภาพของอิหร่าน ที่ IAEA ระบุว่าอยู่ที่ 1,020.9 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่าปริมาณที่จำกัดไว้ที่ 300 กิโลกรัม สามารถนำไปผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้แล้ว ขณะที่อิหร่านยืนยันว่า แผนการพัฒนานิวเคลียร์ของตน มีไว้เพื่อประโยชน์ทางพลเรือนและด้านพลังงานเท่านั้น
