อินโดนีเซียจัดเลือกตั้งประธานาธิบดีและสภานิติบัญญัติระดับชาติและท้องถิ่นวันเดียวกันโดยมีผู้ลงสมัครทั่วประเทศราว 245,000 คน
นาย Umar Madi เป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งผู้ได้รับหน้าที่ให้ดูแลการเลือกตั้งในเขต West Jakarta ของอินโดนีเซียเมื่อวันที่ 17 เมษายน ด้วยวัย 64 ปี Umar Madi เริ่มทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า หนึ่งชั่วโมงก่อนที่คูหาเลือกตั้งจะเปิดทำการ และไม่ได้หยุดพักหรือหลับนอนเลยจนกระทั่งถึง 10 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น
เจ็ดวันให้หลัง Umar Madi เป็นลมหมดสติและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่เขาก็เสียชีวิตในห้องไอซียูสองวันหลังจากนั้น
Evi Erwiyati บุตรสาวของ Umar บอกว่า แม้การเลือกตั้งจะเสร็จสิ้นลงเมื่อวันที่ 17 เมษายนก็ตาม แต่บิดาของเธอยังต้องทำงานต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่ามีการนับคะแนนอย่างสุจริตและถูกต้อง รวมทั้งเพื่อดูแลปกป้องบัตรเลือกตั้งเป็นอย่างดีด้วย Evi Erwiyati บอกด้วยว่า บิดาของเธอบ่นว่าเหนื่อยมากและไม่ยอมทานอะไรเลย
นาย Umar Madi เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลการเลือกตั้งของอินโดนีเซียกว่า 300 คนที่เสียชีวิตลง และส่วนใหญ่มาจากเรื่องสุขภาพบวกกับปัญหาความเหนื่อยล้า
โดย Arief Priyo Susanto โฆษกของคณะกรรมการการเลือกตั้งอินโดนิเชียให้ข้อมูลด้วยว่า นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งกว่า 300 คนที่เสียชีวิตแล้ว อีกกว่า 2,000 คนยังล้มป่วยจากการเลือกตั้งเมื่อ 17 เมษายนด้วย
Electoral officials count ballots at a polling center during elections in Surabaya, East Java province, Indonesia, April 17, 2019 in this photo taken by Antara Foto.
ปีนี้นับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่อินโดนิเชียจัดการเลือกตั้งทั้งสำหรับตำแหน่งประธานาธิบดีและสมาชิกสภานิติบัญญัติในระดับชาติและระดับท้องถิ่นไปพร้อมกัน โดยมีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วประเทศถึงราว 245,000 คนสำหรับตำแหน่งต่างๆ กว่า 20,000 ตำแหน่งในคูหาเลือกตั้งที่มีมากกว่า 810,000 คูหาทั่วประเทศ
ซึ่งก็หมายถึงว่า ผู้ไปใช้สิทธิ์จะต้องทำเครื่องหมายในบัตรเลือกตั้งรวมห้าชุดด้วยกัน
นอกจากนั้นแล้ว สำหรับปีนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งอินโดนิเชียยังได้ลดอายุขั้นต่ำของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งจาก 25 ปีเป็น 17 ปี ทำให้มีผู้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากถึง 193 ล้านคน โดยจำนวนพรรคการเมืองและอาสาสมัครสังเกตการณ์เลือกตั้งซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคการเมืองต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากด้วย
SEE ALSO: วิเคราะห์: เลือกตั้งอินโดฯ ชี้ชะตาการเป็นผู้นำสมัยที่สองของ 'วิโดโด'คุณ Titi Anggraini ผู้อำนวยการบริหารของกลุ่มสังเกตการณ์เลือกตั้ง Association for Elections and Democracy ชี้ว่า การจัดการเลือกตั้งทุกประเภทพร้อมกันในวันเดียว เป็นเหตุผลสำคัญทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมการเลือกตั้งต้องทำงานอย่างหนักเกินความจำเป็นและทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากปัญหาความเหนื่อยล้า
เมื่อห้าปีที่แล้วสมัยที่อินโดนิเชียยังแบ่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีกับสมาชิกสภานิติบัญญัติออกเป็นคนละวันนั้น มีเจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งของอินโดนีเซียเสียชีวิตราว 150 คนด้วยเหตุผลคล้ายๆ กัน
An officer looks for ballot boxes which can still be used, at a warehouse hit by flood and mudslides, in Bogor, West Java province, Indonesia, April 15, 2019 in this photo taken by Antara Foto. Antara Foto/Arif Firmansyah/
และหลังจากที่มีข่าวเจ้าหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งของอินโดนีเซียต้องเสียชีวิตถึงกว่า 300 คน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มีคำสั่งให้โรงพยาบาลและคลินิกต่างๆ ให้การดูแลสำหรับเจ้าหน้าที่ที่ล้มป่วยอย่างเต็มที่
ถึงกระนั้นก็ตาม ความใส่ใจเรื่องนี้คงแทบไม่มีความความหมายเท่าใดนักสำหรับครอบครัวของเจ้าหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งที่ต้องเสียชีวิตลง และสำหรับนาย Umar Madi นั้น เขาได้รับค่าตอบแทนสำหรับการทำงานในวันเลือกตั้ง 17 เมษายนที่ผ่านมาเป็นเงิน 35 ดอลลาร์ หรือราว 1,100 บาท
และคณะกรรมการการเลือกตั้งของอินโดนิเชียเปิดเผยด้วยว่า ครอบครัวของเขาจะได้รับเงินช่วยเหลืออย่างสูงไม่เกิน 2,100 ดอลลาร์ หรือราว 66,000 บาท