อินเดียและประเทศในเอเชียหลายประเทศเพิ่มการนำเข้าน้ำมันรัสเซียจนกลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาลกรุงมอสโกในขณะนี้ ท่ามกลางแรงกดดันและมาตรการลงโทษจากชาติตะวันตกที่นำมาใช้เพื่อจำกัดรายได้ของรัสเซียซึ่งอาจนำไปใช้ในการทำสงครามในยูเครน
ตั้งแต่เข้าสู่ปีค.ศ. 2022 เป็นต้นมา อินเดียนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียไปแล้วเกือบ 60 ล้านบาร์เรล เทียบกับปริมาณ 12 ล้านบาร์เรลเมื่อปีที่แล้วทั้งปี อ้างอิงจากข้อมูลของบริษัท Kpler ในขณะที่ปริมาณการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียของหลายประเทศในเอเชีย รวมทั้งจีน ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเช่นกัน
นายกรัฐมนตรีศรีลังกา รานิล วิกรมสิงเห กล่าวกับสำนักข่าวเอพีเมื่อวันเสาร์ว่า ศรีลังกายินดีซื้อน้ำมันจากรัสเซียเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศกำลังต้องการเชื้อเพลิงอย่างมากในการผลักดันให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม ศรีลังกาสั่งซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย 99,000 ตัน เพื่อให้โรงกลั่นทำงานได้
ทั้งนี้ ตั้งแต่รัสเซียเริ่มบุกยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ราคาน้ำมันโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้โรงกลั่นต่าง ๆ ในอินเดียและประเทศอื่นในเอเชียต่างหันไปซื้อน้ำมันจากรัสเซียซึ่งได้รับส่วนลดในราคาถูกกว่าตลาดโลกราว 30 - 35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความสำคัญของตลาดเอเชียที่มีต่อภาคพลังงานของรัสเซียยิ่งเพิ่มขึ้นเมื่อสหภาพยุโรปตัดสินใจลดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากรัสเซียเพื่อจำกัดช่องทางหารายได้ของรัฐบาลกรุงมอสโก โดยอียูมีแผนจะระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ แต่รัสเซียได้หันไปส่งออกน้ำมันให้แก่ประเทศในเอเชียแทน โดยมีอินเดียเป็นลูกค้าอันดับหนึ่ง ตามด้วยจีน
โดยตัวเลขการขนส่งน้ำมันจากรัสเซียมายังอินเดียเพิ่มขึ้นจากระดับ 100,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ มาอยู่ที่ระดับ 870,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนพฤษภาคม
SEE ALSO: 'อียู' ตกลงเพิ่มการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย
การที่อินเดียเพิ่มปริมาณการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ส่งให้ให้เกิดความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับอินเดีย โดยรัฐมนตรีต่างประเทสสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวเมื่อเดือนเมษายนหลังพบหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอินเดียว่า สหรัฐฯ ตระหนักดีถึงความต้องการน้ำมันของอินเดีย แต่สหรัฐฯ ไม่ต้องการให้พันธมิตรและประเทศที่มีความร่วมมือกับสหรัฐฯ เพิ่มการซื้อเชื้อเพลิงจากรัสเซียอีก
แต่รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย สุพรหมณยัม ชัยศังกระ กล่าวเน้นย้ำถึงความตั้งใจของอินเดียที่จะทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศและประชาชนอินเดีย โดยระบุว่า "หากการที่อินเดียซื้อน้ำมันจากรัสเซียหมายถึงการสนับสนุนการทำสงคราม แล้วการที่ประเทศอื่นซื้อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียถือเป็นการสนับสนุนสงครามด้วยหรือไม่?" ซึ่งหมายถึงการที่หลายประเทศในยุโรปยังคงนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย
ปริมาณการขนส่งน้ำมันจากรัสเซียไปยังจีนในปีนี้เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งทำให้รัฐบาลประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เกินดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นสถิติใหม่ในปีนี้ ที่ระดับ 96,000 ล้านดอลลาร์เฉพาะ 4 เดือนแรกของปีสิ้นสุดในเดือนเมษายน
ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรในยุโรปต่างกำลัง "หารืออย่างแข็งขัน" ในมาตรการต่าง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงการจัดตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อกำหนดราคาน้ำมันที่รัสเซียส่งออก เป้าหมายเพื่อจำกัดแหล่งรายได้ของรัสเซีย ตามการเปิดเผยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ แจเน็ต เยลเลน ที่กล่าวต่อคณะกรรมาธิการของวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่แล้ว
- ที่มา: เอพี