อินเดียจับกุมชาวบังกลาเทศที่พยายามข้ามชายแดน เพื่อหลบหนีเหตุรุนแรงและความวุ่นวายทางการเมือง หลังเหตุประท้วงนองเลือดที่นำไปสู่การประกาศลาออกและลี้ภัยของนายกรัฐมนตรีชีค ฮาซีนา ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่บริเวณชายแดนของอินเดียเมื่อวันจันทร์
กองกำลังความมั่นคงชายแดน (Border Security Force - BSF) ของอินเดีย เผยเมื่อวันจันทร์ว่า ชาวบังกลาเทศหลายร้อยคนปักหลักบริเวณชายแดนเพื่อขอข้ามพรมแดนมายังอินเดีย และได้จับกุมชาวบังกลาเทศ 11 คนเมื่อวันอาทิตย์ หลังพวกเขาพยายามหลบหนีข้ามพรมแดนเข้ามายังรัฐเบงกอลตะวันตก นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าชาวบังกลาเทศอีก 4 คนถูกขับออกจากรัฐอัสสัมในอินเดียด้วยเช่นกัน
ชาวบังกลาเทศที่นับถือศาสนาฮินดูถือเป็นชนกลุ่มน้อยในบังกลาเทศที่นับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนประชากรกลุ่มนี้ราว 8% ของประชากรบังกลาเทศ 170 ล้านคน และคนกลุ่มนี้เป็นฐานเสียงที่มั่นคงของพรรคอวามี ลีก ของฮาซีนา
แต่หลังจากการลาออกและลี้ภัยไปอินเดียอย่างกะทันหันของฮาซีนา ที่ถือเป็นการสิ้นสุดระบอบเผด็จการยาวนาน 15 ปี เมื่อ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา เริ่มมีรายงานการโจมตีครัวเรือน วัดวาอาราม และธุรกิจของชาวฮินดูในบังกลาเทศ
โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิผู้นับถือศาสนาอื่น ๆ ในบังกลาเทศรายงานว่ามีเหตุโจมตีชุมชนผู้นับถือศาสนาอื่น ๆ นอกจากอิสลามในบังกลาเทศมากกว่า 200 ครั้ง ซึ่งรวมทั้งชาวฮินดู คริสต์ และชาวพุทธ
ด้านอามิต ชาห์ รัฐมนตรีกิจการภายในอินเดีย กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อติดตามสถานการณ์ในบังกลาเทศ “เพื่อรับรองความปลอดภัยของชาวอินเดีย ผู้นับถือศาวนาฮินดู และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ที่นั่น”
ส่วน “สภาที่ปรึกษา” ของมูฮัมหมัด ยูนุส ผู้นำรัฐบาลเฉพาะกาลบังกลาเทศ ระบุว่าได้รับทราบเรื่องการโจมตีทำชาวฮินดูและชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ด้วย “ความกังวลอย่างยิ่ง” และในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเมื่อค่ำวันอาทิตย์ คณะรัฐบาลเฉพาะกาลของบังกลาเทศ ระบุว่าจะ “หาทางแก้ปัญหาเหตุโจมตีอันชั่วร้ายเช่นนี้”
- ที่มา: เอเอฟพี