ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) เดินทางไปกรุงมอสโกในวันพฤหัสบดีเพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่จากกองทัพและตัวแทนบริษัทพลังงานปรมาณูของรัฐ เพื่อหารือการจัดตั้งโซนป้องกันภัยรอบ ๆ โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในยูเครนที่กองทัพรัสเซียยึดครองไว้อยู่ ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
บริษัทโรสอะตอม ซึ่งเป็นธุรกิจพลังงานของรัฐบาลรัสเซียเปิดเผยว่า การหารือดังกล่าวซึ่งมีจุดประสงค์ที่จะหาทางป้องกันโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริซห์เชียของยูเครน และพื้นที่แคว้นปกครองรอบ ๆ “มีแก่นสาร เป็นประโยชน์ และเปิดเผยตรงไปตรงมา” ขณะที่ ราฟาเอล กรอสซี ผ.อ. ไอเออีเอ ชี้ว่า ยังต้องมีการหารือเพิ่มเติมอีก ต่อจาก “การหารือที่มีความจำเป็นรอบนี้”
กรอสซี ยังทวีตข้อความออกมาด้วยว่า “ประเด็นสำคัญก็คือ โซน(ที่ว่า)ทำหน้าที่หลักในการป้องกันอุบัติเหตุทางนิวเคลียร์” และ “ผมจะเดินหน้าพยายามทำให้เป้าหมายนี้สำเร็จ อย่างเร่งด่วนที่สุด”
ผอ.ไอเออีเอ ได้พยายามเรียกร้องให้ทั้งรัสเซียและยูเครนมาเป็นเวลากว่า 3 เดือนให้ตกลงจัดตั้งโซนปลอดภัยรอบ ๆ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรป ขณะที่ เขตปกครองซาปอริซห์เชียและพื้นที่ฝั่งตรงข้ามโรงไฟฟ้าแห่งนี้ที่มีแม่น้ำดนีเปอร์คั่นกลางอยู่ถูกรัสเซียยิงโจมตีด้วยปืนใหญ่มาเป็นเวลาเกือบ 10 เดือนแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ยูเครนเองก็ได้เฝ้าร้องขอให้มีการจัดตั้งโซนปลอดการสู้รบรอบ ๆ โรงไฟฟ้านี้เช่นกัน
และแม้เตาปฏิกรณ์ปรมาณูทั้ง 6 ตัวของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้จะถูกปิดไปแล้ว แกนปฏิกรณ์และเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ถูกใช้งานไปแล้วยังถูกทำให้เย็นตัวต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะร้อนจัดและทำให้เกิดการหลอมละลายซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก เช่นเดียวกันที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมาในญี่ปุ่น หลังเกิดเหตุคลื่นยักษ์สึนามิถล่มเมื่อปี ค.ศ. 2011
ขณะเดียวกัน กองทัพรัสเซียรายงานในวันพฤหัสบดีว่า เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมเพิ่งเดินทางเยี่ยมกองกำลังรัสเซียที่แนวหน้าของการต่อสู้ซึ่งเครมลินเรียกว่าเป็น “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ในยูเครน โดยไม่มีการเปิดเผยจุดที่เดินทางไป แต่กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงภาพขณะที่ รมต.ชอยกู เดินตรวจตราที่พักทหารและทักทายผู้บัญชาการทหารต่าง ๆ
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ในเขตปกครองดอแนตสก์ของยูเครนที่รัฐบาลเครมลินเป็นผู้แต่งตั้งรายงานว่า กองกำลังยูเครนใช้ปืนใหญ่ยิงโจมตีโรงแรมแห่งนี้ในวันพุธ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง โดยในกลุ่มผู้บาดเจ็บนั้นมี ดมิทรี โรโกซิน อดีตรองนายกรัฐมนตรีของรัสเซียที่เป็นอาสาสมัครกองกำลังมอสโกรวมอยู่ด้วย
เดนิส พูชิลิน ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนที่รัสเซียแต่งตั้งให้เป็นรักษาการผู้ว่าการดอแนตสก์ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน และบอกด้วยว่า โรงแรมที่ถูกโจมตีนี้ไม่เคยตกเป็นเป้าการยิงมาตลอดเวลา 8 ปีที่กลุ่มของตนเข้าควบคุมพื้นที่เขตปกครองนี้ และเชื่อว่า ต้องมีสายไปแจ้งฝ่ายยูเครนว่าตนอยู่ในโรงแรมแห่งนี้ จึงมีการยิงโจมตีเข้าใส่
อย่างไรก็ดี กองกำลังชายแดนยูเครนออกแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดียอมรับว่า ฝ่ายตนเป็นผู้โจมตีดอแนตสก์ หลังทางหน่วยเชื่อว่า “ดมิทรี โรโกซิน ผู้เป็นพลเมืองรัสเซีย” ข้ามแดนเข้ามายูเครนอย่างผิดกฎหมาย และมีผู้ “พบเห็นว่า ปรากฏตัวในอาณาเขตที่ถูกรัสเซียยึดครองไว้ชั่วคราวในเขตปกครองดอแนตสก์”
- ที่มา: เอพี