เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนรายหนึ่งเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มอาคารที่พักอาศัยกลุ่มหนึ่งในซาปอริห์เชีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย
โอเลกซานเดอร์ สตารุกห์ ผู้ว่าการเขตปกครองซาปอริห์เชีย โพสต์ข้อความบนแอปพลิเคชั่น เทเลแกรม ว่า มีประชาชน 5 คนติดอยู่ภายใต้ซากปรักหักพังของอาคารหลังการยิงโจมตีครั้งนี้
ทั้งนี้ ยูเครนเข้ายึดครองตัวเมืองไว้ได้แล้ว แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ในเขตปกครองนี้ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซียอยู่
ซาปอริห์เชียนั้นเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรปและการตกเป็นเป้ายิงโจมตตีอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทำให้นานาชาติกลัวว่า จะเกิดเหตุภัยพิบัตินิวเคลียร์ครั้งใหม่ขึ้น
ราฟาเอล กรอสซี ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ มีกำหนดเยือนกรุงเคียฟและกรุงมอสโกในสัปดาห์นี้ เพื่อร่วมการประชุมสำคัญ ๆ กับรัฐบาลทั้งสองประเทศ โดย กรอสซี กล่าวเมื่อวันพุธว่า ความจำเป็นในการจัดตั้งเขตปกป้องรอบ ๆ โรงไฟฟ้านั้น “เป็นเรื่องที่มีความเร่งด่วนอย่างมากแล้ว”
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ระบุระหว่างการแถลงข่าวรายวันเมื่อคืนวันพุธว่า กองกำลังกรุงเคียฟได้ยึดคืนหมู่บ้าน โนโววอสกรีเซนสเก โนโวห์รีฮอริฟกา และเพโตรพาฟลิฟกา ในเขตปกครองเคอร์ซอน ซึ่งเป็นส่วนที่รัสเซียประกาศผนวกอาณาเขตไปได้แล้ว
ชัยชนะในครั้งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าต่อเนื่องของการยึดคืนอาณาเขตต่าง ๆ ที่รัสเซียยึดครองไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ของยูเครน
ปธน.เซเลนสกี กล่าวด้วยว่า ปูติน “พ่ายแพ้ไปแล้ว” และเรียกสงครามที่ผู้นำรัสเซียสั่งกองทัพตนให้เปิดฉากรบตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ว่าเป็น “การทำลายตนเองในทุกแง่มุมของประเทศคุณ” ด้วย
ปธน.เซเลนสกี กล่าวว่า “ชาวยูเครนรู้ดีว่า ตนจะสู้เพื่ออะไร” และว่า “และประชากรรัสเซียค่อย ๆ ตระหนักว่า ตนจะต้องตายลงเพียงเพราะชายคนหนึ่งไม่ต้องการจะยุติการทำสงคราม”
ขณะเดียวกัน ซาแมนธา เพาเวอร์ ผู้บริหารหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐฯ (USAID) เดินทางถึงกรุงเคียฟในวันพฤหัสบดีเพื่อพบกับเจ้าหน้าที่รัฐบาล เกษตรกร ผู้สื่อข่าว ผู้ประกอบการ และคนงานจากอุตสาหกรรมพลังงานของยูเครน เพื่อหารือวิธีที่จะช่วยชาวยูเครนอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่
เพาเวอร์ กล่าวว่า “เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากสำหรับชาวยูเครน ขณะที่ พวกเขาเดินหน้าปกป้องเสรีภาพของตนจากการโจมตีอันโหดร้าย ปลดปล่อยผืนดินที่ถูกยึดครอง เตรียมตัวรับฤดูหนาว และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้สถาบันประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม”
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์
