แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ประกาศขอยุติบทบาทผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาล่าง ขณะที่ พรรครีพับลิกันที่สามารถพลิกกลับมากุมเสียงข้างมากในการเลือกตั้งกลางเทอมที่เพิ่งผ่านพ้นไปเตรียมก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมนี้แล้ว
SEE ALSO: 'รีพับลิกัน' จ่อครองสภาล่าง เตรียมเปลี่ยนประธานสภาคนใหม่แทน ส.ส.เพโลซีเพโลซี วัย 82 ปี เป็นสตรีคนแรกที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งสูงสุดของฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ ประกาศการตัดสินใจของตนต่อหน้าที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรในวันพฤหัสบดี โดยยืนยันว่า ด้วยความมั่นใจของเธอในสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภานี้ เธอจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้นำสมาชิกในการเลือกตั้งสภาคองเกรสครั้งหน้า
ประธานสภาล่างสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า บัดนี้ถึงเวลาสำหรับคนรุ่นใหม่ที่จะมานำพากลุ่มสมาชิกพรรคเดโมแครตที่ตัวเธอ “มีความเคารพยิ่ง” และระบุว่า เธอนั้นรู้สึกขอบคุณหลายต่อหลายคนที่แสดงความยินดีและความเต็มใจที่จะก้าวขึ้นมารับภาระหน้าที่อันสุดยอดนี้ด้วย
ในการกล่าวสุนทรพจน์ความยาว 15 นาทีนี้ เพโลซี ยังได้พูดถึงช่วงเวลาที่เธอทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรตัวแทนรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นเวลาถึง 35 ปี โดยเฉพาะพัฒนาการของสภาฯ ที่มีส.ส.ซึ่งเป็นสตรีเพิ่มขึ้นจาก 12 คนในปี ค.ศ. 1987 มาเป็น กว่า 90 คนในปัจจุบัน พร้อม ๆ กับความหลากหลายทางเชื้อชาติของสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครตที่เพิ่มขึ้นตามมาด้วย
ทั้งนี้ เพโลซี ยืนยันว่า เธอจะยังคงทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรต่อไป ก่อนจะกล่าวขอบคุณสามีของเธอ พอล เพโลซี ที่ยังคงพักฟื้นจากเหตุการณ์ถูกคนร้ายบุกเข้าไปในบ้านในนครซานฟรานซิสโกและทำร้ายจนบาดเจ็บหนัก ขณะที่ ตัวเธอเองมาปฏิบัติหน้าที่ที่กรุงวอชิงตันอยู่ ซึ่งทำให้สมาชิกสภาทั้งจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันยืนปรบมือให้เธอกันถ้วนหน้า
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า “เพราะแนนซี เพโลซี ชีวิตชาวอเมริกันนับล้านล้านคนดีขึ้น แม้ในพื้นที่เขตที่มีพรรครีพับลิกันเป็นตัวแทนและออกเสียงคัดค้านร่างกฎหมายที่เธอนำเสนอ รวมทั้งพูดจาให้ร้ายเธอ ... นั่นคือ แนนซี – ที่มุ่งทำงานเพื่อศักดิ์ศรีของคนทุกคน”
- ที่มา: วีโอเอ