การศึกษาจาก Harvard Medical School เปิดเผยว่า โควิด-19 เริ่มพบครั้งแรกในประเทศจีน ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จากเดิมที่หลายฝ่ายเชื่อว่าโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้เริ่มพบครั้งแรกเมื่อปลายเดือนธันวาคมในปีเดียวกัน
การศึกษาของ Harvard Medical School วิเคราะห์ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม การเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และการสืบค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ของประชาชนที่เมืองอู่ฮั่นของจีน พบว่ามีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีก่อน
การวิจัยนี้วิเคราะห์การค้นหาข้อมูลในไป่ตู้ เสิร์ชเอนจิ้นของจีน ยังพบว่าชาวจีนค้นหาคำว่า “ไอ” และ “ท้องเสีย” ช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมปี 2019 ซึ่งตรงกับข้อมูลอาการของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 5 แห่งจาก 6 แห่งในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งมาด้วยอาการ “ไอ” และ “ท้องเสีย” ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งทีมวิจัยพบว่าเป็นการค้นหาที่แตกต่างจากช่วงที่มีไข้หวัดใหญ่ระบาดตามฤดูกาล
อย่างไรก็ตาม ทาง Harvard Medical School ยอมรับว่ายังมีข้อจำกัดหลายอย่างในการใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม บวกกับการรักษาในโรงพยาบาล และการค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เพราะอาจยังไม่เป็นเครื่องบ่งชี้ที่ชัดเจนมากพอสำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศจีนได้มากพอ
ที่ผ่านมา จีนถูกวิจารณ์อย่างหนักในการรับมือกับโควิด-19 จากนานาประเทศ รวมทั้งการที่จีนปกปิดข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 แต่ทางการจีนยืนยันหนักแน่นว่ามีความโปร่งใสและพร้อมร่วมมือกับอนามัยโลกในเรื่องนี้
ส่วนที่ยุโรป เยอรมนีขยายมาตรการห้ามเดินทางไปกลุ่มประเทศนอกยุโรป จนถึง 31 สิงหาคมนี้ ตามรายงานของรอยเตอร์ และจะพิจารณาผ่อนคลายในบางประเทศของยุโรป อย่างอังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ ช่วง 15 มิถุนายนนี้หรือจนกว่ากลุ่มประเทศเหล่านั้นจะไม่มีมาตรการล็อคดาวน์ภายในประเทศแล้ว
ส่วนที่ตุรกีผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ที่บังคับใช้เฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ในวันอังคาร เพื่อหวังฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประเทศหลังวิกฤตโควิด-19 ขณะที่ผู้ติดเชื้อทะลุ 172,000 คน และเสียชีวิตกว่า 4,700 คน
ในสหรัฐฯ ที่เริ่มกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ประเมินความเสียหายของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ในประเทศ ว่าอาจสูญเงินราว 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ จากโควิด-19 ตามรายงานของสำนักข่าว CNBC
โดยผลกระทบของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ปริมาณความต้องการสินค้าเนื้อสัตว์ที่ลดลง และโรงงานผลิตเนื้อสัตว์ที่ปิดตัวไปส่งผลให้ราคาขายส่งเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นเท่าตัว ในขณะที่ราคาปศุสัตว์ลดลงราว 20-30% และช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาราคาขายส่งเนื้อสัตว์ปรับลดลงเล็กน้อย ซึ่งนักวิเคราะห์กังวลว่าวิกฤตินี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน จากที่มีรายงานว่าวิกฤติโควิด-19 นี้ มีคนงานในอุตสากรรมเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อไปแล้วอย่างน้อย 2 หมื่นราย และจากจำนวนนี้เสียชีวิตไปทั้งสิ้น 74 คนในสหรัฐฯ