การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เริ่มมีการผ่อนมาตรการการล็อคดาวน์นั้นส่วนหนึ่งย่อมขึ้นอยู่กับการกลับมาของอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยว โดยผู้เชี่ยวชาญต่างมองว่า มูลค่าการท่องเที่ยวของไทยในไตรมาสแรกที่ลดลงไปถึง 40% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน อาจจะฟื้นตัวขึ้นมาบ้างในช่วงที่เหลือของปีหากนักท่องเที่ยวมีความมั่นใจในความปลอดภัยทางสุขภาพในระหว่างการท่องเที่ยวได้ ซึ่งไทยอาจดูตัวอย่างได้จากประเทศอื่นๆ ที่ต่างเริ่มผ่อนมาตรการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตัวเลขการท่องเที่ยวของทั้งปี 2563 ดูน่าเป็นห่วง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ว่าอาจลดลงไปอย่างมากถึงราว 65% จากปีก่อน โดย ททท. ประเมินว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยจะเหลือเพียงราว 14 ถึง 16 ล้านคน จากยอดนักท่องเที่ยวเมื่อปีที่แล้วที่อยู่ที่ 39.8 ล้านคน
รังสิมันตุ์ กิ่งแก้ว อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวกับวีโอเอไทยว่า แม้เขาคาดว่าตัวเลขการท่องเที่ยวอาจเริ่มปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้า หลังมีการผลิตใช้วัคซีนอย่างแพร่หลาย แต่ก็อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยถึงสองปี ตัวเลขของนักท่องเที่ยวถึงจะกลับมาใกล้เคียงกับตัวเลขนักท่องเที่ยวในภาวะปกติ
“จากสถานการณ์ในประเทศไทยที่เริ่มคลี่คลายลง คาดว่าตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยน่าจะเริ่มกลับมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตในช่วงต้นไตรมาสที่ 3 หรือเดือนกรกฎาคมของปีนี้” รังสิมันตุ์กล่าว “ส่วนตลาดต่างประเทศคงเริ่มมีการทยอยกลับมาอย่างช้าตามสถานการณ์ของแต่ละประเทศ โดยประเทศที่จะกลับมาได้ก่อนคือตลาดเอเชีย”
ณิชา ศิรินันท์ กรรมการผู้จัดการโรงแรมไทรบ์ พัทยา โรงแรมกึ่งสี่ดาวย่านหาดจอมเทียนในพัทยา เล่าให้ทางวีโอไอไทยฟังว่า ทางโรงแรมได้รับผลกระทบแบบ “ล้มครืน” ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม ที่ทางรัฐบาลเริ่มมีนโยบายปิดน่านฟ้าประเทศไทย ซึ่งส่งผลต่อจำนวนลูกค้าของทางโรงแรมซึ่งปกติราว 80% จะมาจากยุโรปเป็นอย่างมาก
ทางโรงแรมกำลังจะกลับมาเปิดให้บริการแบบไม่เต็มรูปแบบเพื่อรักษาระยะห่างทางสังคมในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ หลังจากปิดชั่วคราวมาตั้งแต่เดือนเมษายนเพราะได้รับผลกระทบจากยอดจองที่ต่ำมากและมาตรการของทางการพัทยาที่ห้ามเปิดโรงแรม ร้านอาหาร ชายหาด ในช่วงดังกล่าว
“ทางโรงแรมไม่ได้เลย์ออฟพนักงาน เราให้หยุดงานแต่จ่ายเงินเดือนให้แต่ลดลง 30% โดยที่พนักงานไม่ต้องทำงานอะไรเลย อนุญาตให้พนักงานทำงานเสริม ทางเราไม่อยากให้ใครออกเลย” ณิชากล่าวถึงสถานการณ์ของทางโรงแรม
เธอยอมรับด้วยว่า ไม่แน่ใจว่าทางโรงแรมจะกลับมาเปิดให้บริการไปได้อีกแค่ไหนเพราะนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาส่วนใหญ่เป็นคนไทย ซึ่งไม่ใช่กลุ่มลูกค้าหลักของทางโรงแรม “พอยังไม่เปิดประเทศ แทบไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็เหมือนทุกโรงแรมรุมแย่งเค้กก้อนเดียวกันจากกลุ่มนักท่องเที่ยวไทย”
ณิชาบอกว่า สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ ถ้าได้รายได้ราว 50% จากรายได้ปกติ ก็ “ถือว่ารอดแล้ว”
“ทางเราคาดหวังให้รัฐดูเรื่องนโยบาย แต่ก็ไม่มีความหวังกับรัฐบาลเท่าใดนัก ทางรัฐ [ออกพระราชกำหนดช่วยเหลือธุรกิจ SMEs] ให้พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยได้ 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนมันเป็นเวลาสั้นๆ เท่านั้น เหมือนทางรัฐประเมินสถานการณ์ในไทยว่าจะดีขึ้นในช่วงนั้น แต่ไม่ได้คำนึงว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าประเทศได้มากน้อยแค่ไหนเท่าที่ควร”
ทั้งนี้ ทาง ททท. ได้เผยถึงแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวสามระยะ โดยในระยะแรก เป็นระยะที่รัฐจะผ่อนคลายให้มีการดำเนินกิจกรรมต่างๆ แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง การเคลื่อนย้ายผู้คน และสถานที่ชุมนุม โดยไทยจะใช้ช่วงเวลานี้เตรียมความพร้อมเรื่องบุคลากร ยกระดับคุณภาพสินค้าและบริการ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระยะที่สอง
โดยในระยะที่สองนี้ ทาง ททท. วางแผนเริ่มดำเนินการในเดือนมิถุนายน โดยจะเริ่มเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวไม่เกิน 60% ของพื้นที่ที่อนุญาตให้เดินทาง โดยให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวภายในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศที่ควบคุมโรคได้ดีแล้วให้เข้ามาในไทย ที่อาจเริ่มกลับเข้ามาเที่ยวไทยได้ในเดือนตุลาคม โดยสร้างความเข้าใจกับคนในพื้นเป้าหมาย โดยอาจเลือกพื้นที่เบื้องต้นเป็นเกาะ ก่อนที่จะเข้าสู่ระยะที่สามที่จะเปิดการท่องเที่ยวเต็มรูปแบบ โดยเน้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติระดับบนด้วยภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
แผนกวิจัยและการสื่อสารของคอลลิเออร์ส อินเตอร์แนชั่นแนล ประเทศไทย บริษัทให้บริการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ระบุในรายงานของทางบริษัท ฉบับเดือนพฤษภาคมว่า ในปี 2563 ประเทศไทยอาจมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมอยู่ที่ราว 1.4 ล้านล้านบาท ลดลงประมาณ 6 แสนล้านบาทหรือคิดเป็น 30.7% จากปีก่อนหน้า
นอกจากผลกระทบจากการระบาดของไวรัสแล้ว คอลลิเออร์ส อินเตอร์แนชั่นแนล ประเทศไทย ยังมองด้วยว่า ภาคการท่องเที่ยวไทยจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยอื่นๆ เช่น การแข็งค่าของเงินบาท ที่ทำให้การแลกสกุลเงินต่างชาติเป็นเงินไทยมีมูลค่าลดลง 10-20% ข้อจำกัดเรื่องการรองรับของสนามบินหลักของไทย เป็นต้น
วิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว กล่าวกับสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจว่า จีนจะเป็นประเทศแรกที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย แต่ก็ต้องดูความพร้อมในการรองรับของไทยด้วย ทั้งความพร้อมในการรองรับของไทย การเปิดให้บริการของสายการบินไทย-จีน รวมถึงนโยบายการเดินทางและผ่านเข้าออกของทั้งสองประเทศ ที่ต้องไม่มีมาตรการกักตัว 14 วันหลังการเดินทาง
โดยนายวิชิตกล่าวต่อว่า หากไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ภายในเดือนมิถุนายน ก็น่าจะเริ่มต้อนรับนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน
ทั้งนี้ สอดคล้องกับที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามประกาศให้จีน เกาหลีใต้ ฮ่องกง และมาเก๊า พ้นบัญชีเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา เหมือนเป็นการเริ่มส่งสัญญาณให้เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศดังกล่าว
แม้ว่าจะมีความเสี่ยงว่าจะเกิดการระบาดของไวรัสระลอกที่สองและระลอกที่สาม แต่หลายประเทศก็วางแผนที่จะเริ่มเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวภายในเดือนมิถุนายนนี้เช่นกัน ในขณะที่ยังคงรักษามาตรการทางสุขภาพไว้เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวเดินหน้าไปได้ ในขณะเดียวกันก็พยายามควบคุมไม่ให้การระบาดของไวรัสกระจายเป็นวงกว้างไปมากกว่าเดิม
สำหรับการปลดล็อคมาตรการการท่องเที่ยวที่ไทยอาจดูเป็นแนวทางได้ รังสิมันตุ์เห็นว่า เขานึกถึงประเทศจีน ที่เริ่มให้มีการท่องเที่ยวภายในเมือง และกำลังจะขยายเป็นการท่องเที่ยวข้ามมณฑล และปลายปีจะเริ่มเปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ
“เราสามารถที่จะเรียนรู้ได้ว่าการเปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศต้องทำอย่างระมัดระวัง ค่อยเป็นค่อยไป และต้องมีมาตรการในการควบคุมและคัดกรองที่เข้มข้น” รังสิมันตุ์กล่าว
ยุโรปเริ่มปลดล็อค ฟื้นการท่องเที่ยวช่วงโควิด-19
ทางคณะกรรมาธิการยุโรปได้เริ่มออกแนวทางผ่อนคลายการคุมชายแดน เพื่อเปิดทางให้เครื่องบิน เรือสำราญ และรถบัสเดินทางข้ามประเทศในเครือสหภาพยุโรปได้อีกครั้ง ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษามาตรการทางสุขภาพและการตรวจหาเชื้อไวรัสไว้
โดยหนึ่งในประเทศในสหภาพยุโรปอย่างไซปรัส สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จะเริ่มกลับมาเปิดชายแดนในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ แต่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศที่มีอัตราการะบาดของเชื้อไวรัสต่ำเท่านั้น สำนักข่าวอินไซเดอร์ยังรายงานด้วยว่า ทางการไซปรัสจะรับผิดชอบค่าที่พัก อาหาร และค่ารักษาทางการแพทย์แก่นักท่องเที่ยวที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในระหว่างการมาเยือนไซปรัส
ทางด้านกรีซ ข้อมูลจากสถานทูตสหรัฐอเมริกาในกรีซระบุว่า กรีซได้อนุญาตให้มีการเดินทางทางเรือได้ โดยสำหรับเที่ยวเรือที่ยาวกว่า 30 นาที ผู้โดยสารจะต้องตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพก่อนขึ้นเรือ และเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวจาก 29 ประเทศเข้ามาเยือนได้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน ทั้งนี้ สำนักข่าวบิสสิเนส อินไซเดอร์รายงานว่า จะมีการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สนามบิน และจะมีการวัดอุณหภูมิตามโรงแรมและร้านอาหารด้วย
ทางฝั่งอิตาลี ที่ขณะนี้เป็นประเทศที่มีการระบาดของไวรัสสูงเป็นลำดับที่สามในยุโรป สำนักข่าวลา ริพับลิการายงานว่า รัฐบาลอิตาลีจะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้าประเทศได้ในวันที่ 3 มิถุนายน และจะยุติมาตรการให้นักท่องเที่ยวต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีแต่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปเข้ามาเยือนอิตาลี เนื่องจากทางสหภาพยุโรปมีมาตรการปิดชายแดนสำหรับชาวต่างชาตินอกยุโรปจนถึงวันที่ 15 มิถุนายน ทั้งนี้ สำนักข่าวอินไซเดอร์รายงานว่า ทางการเกาะซิซิลีได้เสนออุดหนุนค่าเครื่องบินครึ่งหนึ่ง และค่าที่พักหนึ่งในสามแก่นักท่องเที่ยวที่วางแผนจะมาเยือนเกาะซิซิลีในปีนี้ด้วย
ทางด้านสเปน ที่เป็นประเทศที่มีอัตราการระบาดของเชื้อไวรัสสูงเป็นลำดับที่สองในยุโรป สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการสเปนเตรียมให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้ในช่วงปลายดือนมิถุนายน และจะเริ่มค่อยๆ ปลดล็อคข้อจำกัดด้านการเดินทาง สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นยังรายงานด้วยว่า สเปนจะเริ่มเปิดชายหาดและโรงแรมบางแห่งในบางพื้นที่ในเดือนมิถุนายนนี้ แต่ยังคงรักษามาตรการให้ผู้เดินทางเข้าประเทศต้องกักตัว 14 วันไปจนถึงวันที่ 15 มิถุนายน และจะยืดระยะเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน
การปลดล็อคการท่องเที่ยวในทวีปอเมริกาเหนือ
แม้แต่ประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อสูงเป็นลำดับ 1 อย่างสหรัฐอเมริกา ก็มีการวางแผนถึงการเริ่มเปิดการท่องเที่ยวเช่นกัน โดยในรัฐฟลอริดา ทางการของแหล่งท่องเที่ยวฟลอริดาคีส์เปิดเผยว่า จะเริ่มเตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในวันที่ 1 มิถุนายน หลังจากมีการปิดหมู่เกาะมาตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม โดยยังคงรักษามาตรการการรักษาระยะห่างทางสังคม และจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวลงให้เหลือ 50%
ทางฝั่งประเทศเม็กซิโก สำนักข่าวริเวียรา มายา นิวส์ รายงานว่า เมืองท่องเที่ยวในเม็กซิโกทั้งเมืองแคนคูน เขตโบราณสถานตูลัม และย่านริเวียรา มายา ก็เตรียมกลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวในเดือนมิถุนายนนี้เช่นกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เที่ยวบินจากสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป จะกลับมาเปิดให้บริการในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ คาดว่าจะมีให้บริการจัดงานแต่งงานและการประชุมในพื้นที่ดังกล่าวโดยจะมีการใช้มาตรการเพื่อรักษาอนามัย เช่นเดียวกับย่านลอส บาคอส ที่นิตยสารเลเชอร์ แอนด์ ทราเวล รายงานว่า ได้กลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวอย่างจำกัดตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน โดยโรงแรม ร้านอาหาร และทัวร์ต่างๆ จะต้องได้รับการรับรองมารฐานการทำความสะอาดจากทางการ และจะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวได้ในเดือนกรกฎาคม
รายงานโดย วรรษมน อุจจรินทร์ VOA Thai