ผู้ประท้วงหลายพันคนชุมนุมกลางกรุงเบอร์ลินของเยอรมนีเมื่อวันพุธ เพื่อประท้วงการลงคะแนนของรัฐสภา ที่อาจให้อำนาจรัฐบาลเยอรมันสั่งล็อคดาวน์เพื่อสกัดกั้นการระบาดของโคโรนาไวรัส
สภาสูงและสภาล่างของเยอรมนีลงคะแนนในวันพุธเพื่อผ่านกฎหมายอนุญาตให้รัฐบาลบังคับใช้มาตรการจำกัดการเข้าสังคม การใส่หน้ากาก การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะ การปิดร้านและการงดกิจกรรมทางกีฬา
แม้ชาวเยอรมันส่วนใหญ่จะยอมรับมาตรการล็อคดาวน์ครั้งล่าสุดเพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัสระลอกสอง แต่ก็มีกลุ่มอนุรักษ์นิยมส่วนน้อยที่วิจารณ์ว่า กฎหมายนี้ให้อำนาจรัฐบาลมากเกินไป พรรคขวาจัด Alternative for Germany ถึงกับเปรียบเทียบมาตรการนี้กับกฎหมายมอบอำนาจเมื่อปีค.ศ. 1933 ที่เปิดทางให้อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ขึ้นมาเป็นผู้นำเผด็จการนาซี
ตำรวจเบอร์ลินและกองกำลังจากทั่วประเทศเข้าปิดล้อมรอบบริเวณศูนย์ราชการเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ยังมีการสั่งห้ามชุมนุมนอกบริเวณอาคารรัฐสภาโดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง เจ้าหน้าที่ยังใช้ปืนใหญ่ฉีดน้ำเพื่อกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าใกล้อาคารรัฐสภา
ผู้ประท้วงรายหนึ่งสวมหน้ากากที่มีข้อความว่า “ตะกร้อครอบปากแมร์เคิล” เพื่อล้อเลียนนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ผู้ประท้วงบางส่วนชูป้ายข้อความเช่น “เพื่อทางสว่าง สันติภาพ และเสรีภาพ”
อย่างไรก็ตาม ผู้ประท้วงส่วนใหญ่ไม่ใส่หน้ากากและไม่รักษาระยะห่างทางสังคม
ทั้งนี้ เยอรมนีได้รับคำชื่นชมว่าสามารถรักษาอัตราการระบาดและการเสียชีวิตของโคโรนาไวรัสได้ต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้านในช่วงระยะแรกของการระบาด แต่ขณะนี้เยอรมนีก็เข้าสู่การระบาดระลอกสองเช่นเดียวกับประเทศอื่นทั่วยุโรป
ข้อมูลจากศูนย์วิจัย Robert Koch Institute ของรัฐบาลเยอรมัน ระบุว่า เมื่อวันพุธ ยอดผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในประเทศเพิ่มขึ้น 17,561 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อในประเทศรวมกว่า 833,307 คน และขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 13,119 คน