เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เตือนว่า วัคซีนที่ใกล้จะพัฒนาสำเร็จในอนาคต ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้ของวิกฤตโคโรนาไวรัสสิ้นสุดลง และคนทั่วโลกยังคงต้องให้ความร่วมมือกันสู้ต่อไป
คำเตือนของผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกในวันจันทร์นี้ มีออกมาหลังบริษัทยา Moderna เพิ่งประกาศว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ของตน ประสบความสำเร็จและได้ผล 94.5 เปอร์เซ็นต์ ในการป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัส ในการทดสอบเบื้องต้นในขั้นที่ 3 และขั้นสุดท้าย
เกเบรเยซุส กล่าวด้วยว่า จุดสำคัญในเวลานี้คือ การตระหนักว่าวัคซีนนั้นคือสิ่งที่เป็นองค์ประกอบมาช่วยรับมือกับการระบาด แต่ไม่ใช่สิ่งที่มาทดแทนอะไรทั้งสิ้น พร้อมระบุว่า ทันทีที่มีการอนุมัติวัคซีนออกมาใช้งานและพร้อมแจกจ่าย สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือ วัคซีนที่ผลิตออกมานั้นจะยังคงมีจำนวนที่จำกัดอยู่ และผู้ที่อยู่ในกลุ่มที่จะได้รับก่อนคือ บุคลากรด้านสาธารณสุข ผู้สูงอายุ และผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้งหลาย เพื่อหวังช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและลดความรุนแรงของไวรัสสายพันธุ์นี้ลง
นอกจากนั้น ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ยังย้ำว่า แม้หลังมีวัคซีนออกมาใช้งาน การทดสอบการติดเชื้อ การติดตามตัวผู้ที่เคยอยู่ใกล้ผู้ป่วย และการกักตัวเฝ้าระวังอาการ จะเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินต่อไป และทุกฝ่ายจำเป็นต้องให้ความร่วมมือในกระบวนการต่างๆ เหล่านี้ด้วย
ข้อมูลจาก มหาวิทยาลัย จอนส์ ฮอพกินส์ ในช่วงบ่ายของวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกแล้วไม่น้อยกว่า 54.7 ล้านคน โดยมีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 1.32 ล้านคน