แผนอพยพกาซ่ายังชะงัก หลังเหตุโจมตีรถพยาบาล

ภาพชายคนหนึ่งที่นั่งพักใกล้ประตู้เขตผ่านแดนราฟาห์ ที่เชื่อมต่อกับอียิปต์ ทางใตของฉนวนกาซ่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2566

หลายฝ่ายยังคงหาวิธีเปิดหนทางการอพยพชาวต่างชาติและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บออกจากฉนวนกาซ่าไปยังอียิปต์ในวันอาทิตย์ หลังกระบวนการดังกล่าวถูกระงับไปเมื่อวันก่อน เมื่อเกิดเหตุการณ์โจมตีรถพยาบาลในกาซ่าจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ตามรายงานของรอยเตอร์

บริษัท Palestine Telecommunication Company หรือ พาลเทล (Paltel) ผู้ให้บริการระบบสื่อสารโทรคมนาคมในเขตปกครองปาเลสไตน์ เปิดเผยในวันอาทิตย์ว่า ระบบการสื่อสารและอินเทอร์เน็ตในฉนวนกาซ่าถูกตัดขาดอีกครั้ง ในขณะที่ อิสราเอลเดินหน้ายิงถล่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และกระทรวงสาธารณสุขกาซ่าระบุว่า มีผู้คนนับสิบเสียชีวิตจากการโจมตีที่ค่ายผู้ลี้ภัยในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา

เขตข้ามแดนราฟาห์ที่เชื่อมต่อกาซ่ากับคาบสมุทรไซนายของอียิปต์ คือ ช่องทางออกจากกาซ่าเพียงจุดเดียวที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล และเป็นส่วนที่ขบวนรถบรรทุกขนย้ายเสบียงความช่วยเหลือสามารถเดินทางเข้าไปยังพื้นที่การสู้รบได้ ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าวในอียิปต์

กระบวนการอพยพชาวต่างชาติและชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับบาดเจ็บเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อวันพุธที่แล้ว หลังมีการทำข้อตกลงระหว่างอิสราเอล อียิปต์ และกลุ่มฮามาส โดยมีกาตาร์เป็นตัวกลางการเจรจา

ที่ผ่านมา มีชาวอเมริกันกว่า 300 คนที่เดินทางออกจากกาซ่ามาได้แล้ว ขณะที่ ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังติดอยู่ภายในพื้นที่นั้น อ้างอิงข้อมูลจาก โจนาธาน ไฟเนอร์ รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ

การค้นหาผู้รอดชีวิตที่ค่ายผู้ลี้ภัยในกาซ่า

ขบวนการค้นหาผู้รอดชีวิตการโจมตีของอิสราเอลเข้าใส่ค่ายผู้ลี้ภัยมากาซีในฉนวนกาซ่ายังคงเดินหน้าต่อไป

ภาพเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2566 ซึ่งแสดงความเสียหายที่ค่ายผู้ลี้ภัยมากาซี ใจกลางฉนวนกาซ่า ที่ถูกโจมตีโดยอิสราเอล

โฆษกของกระทรวงสาธารณสุขฉนวนกาซ่าซึ่งกลุ่มฮามาสควบคุมอยู่เปิดเผยในวันอาทิตย์ว่า กองกำลังอิสราเอลยิงถล่มค่ายผู้ลี้ภัยแห่งนี้ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 47 คน ขณะที่ กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) บอกกับผู้สื่อข่าวว่า กำลังรวบรวมข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่

นอกจากนั้น ยังมีรายงานการโจมตีอีกจุดในช่วงเวลาเดียวกันที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์ 21 คนซึ่งเป็นสมาชิกครอบครัวเดียวกันและมีทั้งผู้หญิงและเด็กเสียชีวิต ตามการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขกาซ่า ขณะที่กองกำลัง IDF ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น และรอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้

ท่าทีจากประชาคมโลกต่อสงครามอิสราเอล-ฮามาส

สก็อตต์ มอร์ริสัน อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย และ บอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดินทางไปยังอิสราเอลเพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวอิสราเอล

อดีตนายกฯ สก็อตต์ มอร์ริสัน แห่งออสเตรเลีย และอดีตนายกฯ บอริส จอห์นสัน แห่งอังกฤษ เดินทางเยือนอิสราเอล

และในวันอาทิตย์ อดีตนายกฯ มอร์ริสัน กล่าวว่า ตนรู้สึกขอบคุณที่อดีตนายกฯ จอหน์สัน เดินทางมาอิสราเอล “เพื่อร่วมแสดงความเป็นน้ำหนักใจเดียวกับประชาชนและประเทศอิสราเอล รวมทั้งชุมชนชาวยิวทั่วทั้งโลก”

เมื่อวันเสาร์ ประธานาธิบดีเรจิบ เทยิบ เออร์โดวาน แห่งตุรกี กล่าวว่า ตนต้องการ “เห็นกาซ่าเป็นดินแดนที่สุขสงบ เป็นส่วนหนึ่งของรัฐปาเลสไตน์ที่เป็นอิสระ ตามเขตพรมแดนที่กำหนดไว้ในปี ค.ศ. 1967 ให้มีบูรณภาพแห่งดินแดน และมีเยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวง”

รัฐบาลกรุงอังการาเปิดเผยด้วยว่า ได้มีการเรียกตัวทูตประจำอิสราเอลกลับมาแล้ว หลังอิสราเอลเรียกคณะผู้แทนของตนกลับเมื่อเดือนที่แล้ว ทันทีที่ปธน.เออร์โดวานกล่าวว่า กลุ่มฮามาสนั้นเป็นนักต่อสู้เพื่ออิสรภาพ และไม่ใช่กลุ่มก่อการร้าย อย่างที่สหรัฐฯ อังกฤษและประเทศตะวันตกอื่น ๆ เรียก

ขณะเดียวกัน สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงร่วมเรียกร้องให้เกิดสันติภาพในกาซ่า โดยทรงตรัสว่า “จงหยุด(สู้รบ)เถิด ในนามของพระผู้เป็นเจ้า” พร้อมทรงขอร้องให้มีการนำส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและด้านต่าง ๆ สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ “อันร้ายแรงอย่างมาก” ในฉนวนกาซ่า

  • ที่มา: รอยเตอร์