เอฟบีไอ ยืนยันความสำเร็จในการกู้คืนเงินค่าไถ่บางส่วน ที่ทาง Colonial Pipeline จ่ายให้กับกลุ่มแฮกเกอร์ DarkSide ในรัสเซีย ด้านซีอีโอบริษัทโครงข่ายขนส่งน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐฯ รายนี้ ออกโรงป้องการตัดสินใจจ่ายค่าไถ่นับล้านดอลลาร์ให้กับแฮกเกอร์รัสเซีย หลังเหตุโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน ตามรายงานของเอพี
โจเซฟ บลอนต์ (Joseph Blount) ซีอีโอของบริษัท Colonial Pipeline โครงข่ายขนส่งน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐฯ ขึ้นให้ข้อมูลต่อวุฒิสภาสหรัฐฯในวันอังคาร ยืนยันว่า นี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดในช่วงเวลา 39 ปีที่เขาอยู่ในอุตสาหกรรมพลังงานมา และว่าบริษัทไม่มีทางเลือกในจ่ายเงินค่าไถ่ 75 บิตคอยน์ หรือราว 4.4 ล้านดอลลาร์ ให้กับกลุ่มแฮกเกอร์ DarkSide ของรัสเซีย หลังถูกโจมตีด้วย Ramsomware เมื่อเดือนก่อน และยืนยันว่าตนเล็งเห็นผลประโยชน์ของประเทศชาติมาก่อนสิ่งใด
การขึ้นให้ข้อมูลของผู้บริหารโครงข่ายขนส่งน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐฯ ครั้งนี้ สะท้อนถึงการให้น้ำหนักกับการโจมตีไซเบอร์ของสหรัฐฯ ที่กระทบกับธุรกิจและรัฐบาลอเมริกัน ซึ่ง สว.ร็อบ พอร์ตแมน จากรัฐโอไฮโอ แสดงความกังวลว่า การโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอเมริกา ไม่เพียงเป็นแค่การโจมตีบริษัทเท่านั้น แต่ถือเป็นการโจมตีระดับประเทศ
เมื่อวันจันทร์ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI ระบุว่า หน่วยงานเฉพาะกิจในการรับมือกับการโจมตีด้วย Ramsomware หรือซอฟต์แวร์เรียกค่าไถ่ ประสบความสำเร็จในการกู้คืนบิตคอยน์ราว 85% ที่ทาง Colonial Pipeline จ่ายค่าไถ่ให้กับแฮกเกอร์รัสเซียมาได้