Your browser doesn’t support HTML5
การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างนางฮิิลลารี่ คลินตั้น จากพรรคเดโมแครต กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ยังคงเป็นไปอย่างสูสี ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 7 วันก่อนการเลือกตั้ง ท่ามกลางข่าวเรื่องที่สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI กำลังสืบสวนกรณีการใช้เซิร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัวของนางคลินตั้น ในช่วงที่เธอดำลงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระหว่างปี ค.ศ 2009 - 2013
ผลการสำรวจล่าสุดที่จัดทำโดย Washington Post และ ABC News ชี้ว่าคลินตั้นมีคะแนนนิยมทั่วประเทศนำหน้าทรัมป์เพียง 1% (46 ต่อ 45) โดยการสำรวจครั้งนี้ครอบคลุมถึงช่วงเวลาหลังจากที่ ผอ.FBI นายเจมส์ โคมมี่ย์ ประกาศว่าจะมีการสืบสวนรอยใหม่ต่อกรณีอีเมล์ดังกล่าว
โดยในการตรวจสอบครั้งก่อนที่มีการเปิดเผยเมื่อเดือน ก.ค. นายโคมมีย์ระบุว่านางคลินตั้นไม่มีความผิดทางกฎหมาย เป็นแต่เพียงความประมาทเลินเล่ออย่างรุนแรง ในการจัดการข้อมูลด้านความมั่นคงที่พบในอีเมล์ของเธอ
ผลสำรวจของ Washington Post และ ABC News ชี้ว่า กลุ่มตัวอย่างกว่า 60% บอกว่าข่าวเรื่องการตรวจสอบอีเมล์รอบใหม่ไม่มีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกตั้ง ขณะที่ 30% บอกว่ามีโอกาสน้อยลงที่จะลงคะแนนเลือกนางคลินตั้น
ด้านนางคลินตั้นได้ขอให้ FBI เปิดเผยรายละเอียดของอีเมล์ที่พบในคอมพิวเตอร์ของหนึ่งในที่ปรึกษาคนสำคัญของเธอ คือนางฮูม่า อเบดีน ซึ่งใช้ร่วมกับสามี แอนโธนี่ วีนเนอร์ อดีต ส.ส. รัฐนิวยอร์ก โดยเจ้าหน้าที่พบอีเมล์ชุดนี้ขณะกำลังสืบสวนข้อกล่าวหาที่ว่า นายวีนเนอร์ ได้แลกเปลี่ยนข้อความเชิงชู้สาวกับเด็กหญิงอายุ 15 ปี
บรรดาสมาชิกพรรคเดโมแครต กล่าวว่า เป็นเรื่องแปลกมากที่มีการเปิดเผยเรื่องนี้ในเวลาอีกไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้ง โดยไม่ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม
ส่วน ส.ว. ทิม เคน ผู้ลงสมัครคู่กับนางคลินตั้นระบุว่า การประกาศเรื่องนี้ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ถือเป็นการขัดกับหลักการของกระทรวงยุติธรรม และเป็นการเปิดโอกาสให้นางคลินตั้นถูกโจมตีจากคู่แข่ง
ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวถึงเรื่องนี้ระหว่างหาเสียงว่า คำประกาศของ FBI แสดงให้เห็นว่าการลงคะแนนให้กับนางคลินตั้น คือการยอมปล่อยให้มีการติดสินบน ทุจริต เล่นพรรคเล่นพวก ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ
ก่อนหน้าที่จะมีการเปิดเผยข่าวการสืบสวนอีเมล์รอบใหม่ ฮิลลารี่ คลินตั้นมีคะแนนนิยมนำหน้าโดนัลด์ ทรัมป์ เฉลี่ย 5% ทั่วประเทศ