ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบาม่า ออกมาตำหนิ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่กล่าวอ้างว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้อาจมีการโกงหรือกำหนดผล ทำให้ตนเสียเปรียบ
โดยประธานาธิบดีโอบาม่าระบุว่าทรัมป์ควรหยุดโอดครวญเรื่องนี้ได้แล้ว และให้มุ่งเน้นไปที่การเลือกตั้งที่เหลือเวลาอีกเพียง 3 อาทิตย์
ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า กล่าวที่การประชุมแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่า "ไม่เคยมีครั้งไหนในประวัติศาสตร์การเมืองยุคใหม่ ที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีพยายามลดความน่าเชื่อถือของกระบวนการเลือกตั้ง ก่อนที่จะมีการเดินเข้าคูหาเสียด้วยซ้ำ"
ประธานาธิบดีโอบาม่าระบุว่า "คำกล่าวอ้างของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้อาจมีการโกงหรือควบคุมผลเอาไว้ ทำให้ตนเสียเปรียบนั้น เป็นคำกล่าวหาที่เลื่อนลอย ไม่มีหลักฐาน และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" และว่า "คงไม่มีใครคิดจริงจังว่าระบบการเลือกตั้งของอเมริกาจะสามารถกำหนดผลได้จริงๆ หากพิจารณาจากการกระจายผู้มีสิทธิ์ออกเสียงในระดับท้องถิ่น และความซับซ้อนของการนับคะแนน"
ขณะนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนนิยมลดต่ำลงเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับคะแนนนิยมของคู่แข่งจากพรรคเดโมแครต คือนางฮิลลารี คลินตั้น และในช่วงไม่กี่วันมานี้ ทรัมป์เริ่มจุดประเด็นว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ มีการกำหนดผลเอาไว้ รวมถึงอาจมีการโกงด้วย
โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวอ้างว่ามีการทุจริตเลือกตั้งในบางรัฐที่มีการลงคะแนนล่วงหน้า แต่เข้าไม่ได้มีหลักฐานมายืนยัน ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่าจะยิ่งมีปัญหามากขึ้นในวันเลือกตั้งจริง คือวันที่ 8 พ.ย.
ทรัมป์ระบุว่าระบบการลงคะแนนทั่วประเทศขณะนี้ ถูกกำหนดผลไว้ล่วงหน้าเพื่อให้ตนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และว่าสื่อมวลชนในสหรัฐฯ กำลังวางแผนสมคมคิดกับอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตั้น เพื่อให้เธอได้เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ
แต่ทางโอบาม่าได้กล่าวโต้ว่า ขอให้ทรัมป์หยุดโอดครวญ และพยายามอธิบายนโยบายของตนเพื่อให้ได้รับคะแนนเสียงมากขึ้นจะดีกว่า และว่าตนยินดีจะร่วมทำงานกับประธานาธิบดีคนใหม่ไม่ว่าจะเป็นใคร เพื่อให้มีการส่งมอบอำนาจทางการเมืองอย่างสันติ
ประธานาธิบดีโอบาม่าชี้ว่า หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ เอาแต่โอดครวญตั้งแต่ยังไม่ลงคะแนนเช่นนี้ แล้วมัวแต่โทษคนอื่นหากพ่ายแพ้ เขาก็ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
(ผู้สื่อข่าว Cindy Saine รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)
