เหตุระเบิดต่อเนื่องในซาปอริซห์เชียเขย่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

FILE - A view of the Zaporizhzhia Nuclear Power Station, in Enerhodar, Zaporizhzhia region, in territory under Russian military control, southeastern Ukraine, on May 1, 2022.

เหตุระเบิดรุนแรงหลายจุดในเมืองซาปอริซห์เชีย ของยูเครนตลอดช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ ส่งแรงเขย่าไปยังพื้นที่ใกล้ ๆ กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป และทำให้ผู้บริหารสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (ไอเออีเอ) ต้องออกมาแสดงความกังวลอย่างหนักเกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังดำเนินอยู่นี้อีกครั้ง

ราฟาเอล มาริอาโน กรอสซี ผู้อำนวยการใหญ่ไอเออีเอ กล่าวว่า “ไม่ว่าใครก็ตามที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ ต้องหยุดสิ่งที่ตนทำอยู่ทันที” และกล่าวย้ำสิ่งที่ตนได้เตือนมาหลายครั้งแล้วว่า นี่คือการเล่นกับไฟ

กรอสซี ยังเรียกร้องให้ทั้งรัสเซียและยูเครนเร่งหาทางตกลงรายละเอียดการจัดตั้งโซนปลอดภัยสำหรับนิวเคลียร์รอบ ๆ โรงไฟฟ้าแห่งนี้ แม้ว่า คำเรียกร้องก่อนหน้านี้ที่ส่งไปยังคู่ขัดแย้งทั้งสองจะยังไม่นำไปสู่ความสงบในพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งของโรงงานแห่งนี้ก็ตาม

ไอเออีเอ รายงานด้วยว่า การยิงโจมตีในซาปอริซห์เชียได้สร้างความเสียหายให้กับอาคาร อุปกรณ์และระบบหลายจุด แต่ยังไม่ได้ยกระดับจนกลายเป็นภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์และด้านความมั่นคง ขณะที่ ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในเหตุระเบิดครั้งนี้

ทั้งนี้ สภาพอากาศเย็นจัดของฤดูหนาวเริ่มกระทบยูเครนหนักขึ้น หลังรัสเซียเดินหน้าโจมตีเครือข่ายด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานหลักอื่น ๆ ของยูเครน จนทำให้ชาวยูเครนหลายสิบล้านคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในภาวะที่ไม่มีไฟฟ้าและระบบทำความร้อนใช้

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวถึงสถานการณ์ในเขตปกครองซาปอริซห์เชียว่า กองกำลังรัสเซียระดมยิงปืนใหญ่เข้าใส่โครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนในชุมชนกว่าสิบแห่งซึ่งทำให้บ้านเรือนเสียหายไปแล้วอย่างน้อย 30 หลังด้วย

รายงานข่าวระบุว่า การโจมตีของรัสเซียเข้าใส่เมืองนิโคโปล ซึ่งอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำที่ไหลผ่านหน้าโรงไฟฟ้าซาปอริซห์เชีย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายและสร้างความเสียหายให้อาคารราว 20 แห่ง

สำนักงานปธน.เซเลนสกี รายงานด้วยว่า รัสเซียยังเดินหน้าได้โจมตีพื้นที่บางเขตของเขตปกครองคาร์คิฟ ทางเหนือของยูเครน และเขตปกครองลูฮันสก์และดอแนตสก์ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1 รายและสายส่งไฟฟ้าได้รับความเสียหาย

ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมอังกฤษระบุในรายงานข่าวกรองที่เปิดเผยออกมาในวันอาทิตย์ว่า การที่รัสเซียสั่งถอนทัพออกจากเมืองเคอร์ซอนเมื่อไม่นานมานี้ “เกิดขึ้นแบบมีระบบระเบียบ” และการที่รัสเซียประสบความสำเร็จในการเดินงานทางทหารนี้ “ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะกองบัญชาการเดี่ยวที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าภายใต้การนำของพลเอกเซอร์เกย์ ซูโรวิคิน”

แต่รายงานชิ้นนี้ชี้ด้วยว่า กองกำลังรัสเซีย “ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับผู้นำในระดับกลางและระดับล่าง รวมทั้งวัฒนธรรมปิดบังอำพรางอยู่”

  • ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอเอฟพี รอยเตอร์ และเอพี