สำนักงานยาแห่งยุโรป หรือ EMA เปิดเผยรายงานการตรวจสอบว่า วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) อาจมีผลข้างเคียงให้เกิดลิ่มเลือดผิดปกติที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ แม้จะมีโอกาสเกิดได้น้อยก็ตาม
ผลการตรวจสอบซึ่งใช้เวลานานหลายสัปดาห์ยิ่งทำให้เกิดความไม่มั่นใจในวัคซีนของแอสตราเซเนกาในยุโรป หลังจากที่รัฐบาลหลายประเทศระงับการแจกจ่ายวัคซีนดังกล่าวชั่วคราวสืบเนื่องจากความกังวลเรื่องลิ่มเลือด
ก่อนหน้านี้ EMA เคยออกมายืนยันว่าไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างการเกิดลิ่มเลือดกับวัคซีนของแอสตราเซเนกา พร้อมอนุญาตให้ใช้วัคซีนนี้ได้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทาง EMA เน้นย้ำว่า ประโยชน์ที่จะได้จากวัคซีนนี้มีมากกว่าความเสี่ยง อีกทั้งยังมีประสิทธิผลสูง สามารถป้องกันอาการโควิดขั้นรุนแรง และช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมากได้ ในขณะที่โอกาสที่จะเกิดลิ่มเลือดนั้นมีน้อยอย่างยิ่ง พร้อมระบุว่า ส่วนใหญ่อาการดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับสตรีอายุน้อยกว่า 60 ปีซึ่งได้รับวัคซีนไปไม่ถึงสองสัปดาห์
ทั้งนี้ มีรายงานผู้เกิดอาการลิ่มเลือดอุดตันที่คาดว่าเกิดจากวัคซีนของแอสตราเซเนกา 31 รายในปีนี้ และเชื่อว่าอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในยุโรปแล้วอย่างน้อย 14 ราย
Syringes with AstraZeneca vaccine against the coronavirus disease (COVID-19) are pictured in Laakso hospital in Helsinki, Finland, March 11, 2021.
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลเยอรมนีสั่งระงับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกากับผู้ที่อายุต่ำกว่า 60 ปี เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในยุโรป
ส่วนที่อังกฤษ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพบความเชื่อมโยงระหว่างการเกิดลิ่มเลือดกับการเสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา รวม 7 รายด้วยกัน และได้มีคำแนะนำให้ประชาชนที่อายุต่ำกว่า 30 ปีรับวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์-ไบโอเอ็นเทค (Pfizer-BioNTech) และโมเดอร์นา (Moderna) แทน
ผลการสำรวจความคิดเห็นชี้ว่า ปัจจุบันชาวยุโรปมีความเคลือบแคลงสงสัยในวัคซีนโควิดมากที่สุดในโลก และข่าวเรื่องผลข้างเคียงจากวัคซีนของแอสตราเซเนกาซึ่งผลิตร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ดของอังกฤษ ทำให้ชาวยุโรปจำนวนมากปฏิเสธที่จะรับวัคซีนนี้
อย่างไรก็ตาม แม้ผลกระทบจากการระงับใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาจะมีไม่มากนักในประเทศทางตะวันตก เนื่องจากมีวัคซีนของบริษัทอื่นที่ผลิตออกมาป้อนความต้องการตลอดเวลา แต่กลับมีผลกระทบในวงกว้างต่อประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากวัคซีนนี้มีราคาถูกกว่าและเก็บรักษาได้ง่ายกว่าของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา