‘ไบเดน’ รับผลคะเเนนทางการยืนยันชัยชนะ - ‘ทรัมป์’ บอก “ยังไม่จบ”

President-elect Joe Biden speaks at The Queen theater in Wilmington, Del., Dec. 9, 2020.

Your browser doesn’t support HTML5

US Electors Prepare to Finalize Biden History


วันนี้ตามเวลาสหรัฐฯ Electoral College หรือ 'คณะผู้เลือกตั้ง' ซึ่งเป็นตัวแทนท้องถิ่นของมลรัฐต่างๆ ในอเมริกา ยืนยันผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ว่านายโจ ไบเดนจากพรรคเดโมเเครตเป็นผู้ชนะ ซึ่งจะเปิดทางให้เขาเตรียมรับหน้าที่ผู้นำประเทศคนต่อไป

ในช่วงเย็นวันจันทร์ สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ผลการรวมคะเเนนจาก Electoral College บ่งชี้ว่า ไบเดนได้คะเเนน มากกว่าคะเเนนขั้นต่ำของการชนะเลือกตั้งเป็นผู้นำสหรัฐฯที่ 270 เสียงเรียบร้อยเเล้ว

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์​ ทรัมป์ ซึ่งกล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้งครั้งใหญ่แต่ไม่สามารถแสดงหลักฐานมาจูงใจศาลได้สำเร็จ ยังคงยืนกรานว่าการต่อสู้เพื่อเป็นผู้นำสหรัฐฯ ยังไม่สิ้นสุด

โดนัลด์ ทรัมป์ บอกกับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์เมื่อวันอาทิตย์ว่า การต่อสู้ “ยังไม่จบสิ้นลง” และยังยืนยันต่อว่ามี เขาถูกโกงชัยชนะ

ถ้อยเเถลงของเขาเกิดขึ้นแม้ว่าความพยายามหลายสิบครั้งในการพลิกผลการเลือกตั้งของเขาไม่ประสบผลสำเร็จในชั้นศาล และเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐต่างๆ รวมถึงรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ​วิลเลี่ยม บาร์ ในรัฐบาลทรัมป์เองก็ปฏิเสธว่าเกิดการโกงการเลือกตั้งอย่างมโหฬารตามที่ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวอ้าง

President Donald Trump walks on the South Lawn of the White House in Washington before boarding Marine One, Dec. 12, 2020.

การลงคะเเนนของ Electoral College ในวันจันทร์นี้ จึงเป็นการรับรองอย่างเป็นทางการว่า ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีคือ นายโจ ไบเดน ผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกเป็นเวลา 36 ปี และเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีก 8 ปี ภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา

เป็นที่คาดหมายว่า ในที่สุด Electoral College จะยืนยันผลการเลือกตั้ง ที่โจ ไบเดนได้คะเเนน 306 จากคณะผู้เลือกตั้ง ส่วนคะเเนนของประธานาธิบดี ทรัมป์นั้นอยู่ที่ 232

เมื่อ 4 ปีก่อนโดนัลด์ ทรัมป์ชนะเลือกตั้งเหนือนางฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ​ด้วยคะเเนน 306 ต่อ 232 เท่ากับที่เขาแพ้ต่อโจไบเดนในครั้งนี้ โดยในครั้งนั้นทรัมป์กล่าวว่าเขาชนะฮิลลารี อย่างถล่มทลาย

สื่อสหรัฐฯรายงานบ่ายวันจันทร์ว่า Electoral College ใน 6 รัฐ ที่ทรัมป์ท้าทายผลการเลือกตั้งต่างลงคะเเนนสนับสนุนไบเดน ตามผลการลงคะเเนนของประชาชนในรัฐเหล่านั้น คือใน จอร์เจีย เพนซิลเวเนีย แอริโซนา เนวาดา วิสคอนซิน และมิชิแกน

ว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเตรียมแถลงออกอากาศสดคืนวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่น จากเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาเเวร์ โดยเขาน่าจะกล่าวถึงการได้รับการยืนยันผลการเลือกตั้ง และน่าจะใช้โอกาสนี้พูดถึงประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ที่สามารถต้านทานสิ่งท้าทายที่เกิดขึ้นได้

หากพิจารณาถึงคะเเนนดิบจากประชาชนทั่วประเทศ โจ ไบเดน มีคะเเนนมหาชนสูงกว่าโดนัลด์ ทรัมป์กว่า 7 ล้านเสียง

สำหรับขั้นตอนหลังจากการยืนยันผลการเลือกตั้งโดย Electoral College รัฐสภาสหรัฐฯ จะตรวจสอบและสรุปผลการลงคะเเนนของคณะผู้เลือกตั้งในวันที่ 6 มกราคม ก่อนวันที่ 20 มกราคมที่จะมีการปฏิญาณตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีของผู้ชนะการเลือกตั้ง

With the U.S. Capitol dome visible, a voter drops a ballot into an early voting drop box, Oct. 28, 2020, at Union Market in Washington.

ในกระบวนการของวันที่ 6 มกราคม ส.ส.รีพับลิกันบางคน นำโดยนายโบ บรูคส์จากรัฐอะลาบามา เตรียมใช้ขั้นตอนนี้พลิกผลการเลือกตั้ง เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อนิวยอร์กไทมส์ว่า “เรามีบทบาทตามรัฐธรรมนูญเหนือกว่าศาลสูงสุดและผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางและศาลมลรัฐ.... สิ่งต่างๆ จะเกิดขึ้นตามที่เราบอก และนั่นคือการคำตัดสินสุดท้าย”

ตามประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ไม่มีครั้งใดที่สภาลงมติให้การออกเสียงโดย Electoral College เป็นโมฆะ และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในครั้งนี้ เมื่อพิจารณาว่าฝ่ายเดโมเเครตคุมเสียงข้างมากในสภาผู้เเทนราษฎร

เมื่อย้อนกลับไปในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลรัฐบาลกลาง และศาลมลรัฐ ปฏิเสธความพยายามเดินเรื่องทางกฎหมายจำนวนกว่า 50 คดีของฝ่ายประธานาธิบดีทรัมป์ และผู้สนับสนุนเขาในความพยายามเปลี่ยนผลการเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิที่โจ ไบเดนชนะด้วยคะเเนนมากน้อยต่างกัน