ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงยืนกรานปฏิเสธผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน หนึ่งวันก่อนที่คณะผู้เลือกตั้งของสหรัฐฯ จะประชุมเพื่อลงคะแนนเลือกนายโจ ไบเดน ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต เป็นว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางการเดินขบวนประท้วงของกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์หลายพันคนในกรุงวอชิงตัน
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเสร็จสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อคณะผู้เลือกตั้งจาก 50 รัฐซึ่งเป็นตัวแทนของคะแนนเสียงของประชาชนในรัฐนั้น ๆ ร่วมประชุมเพื่อลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีคนใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ธันวาคมนี้
ก่อนหน้านี้ทุกรัฐต่างประกาศรับรองผลการเลือกตั้งในรัฐของตนไปแล้ว โดยนายโจ ไบเดน ได้คะแนนผู้แทนเลือกตั้งทั้งหมด 306 คน ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์ได้ไป 232 คน ดังนั้น ในวันจันทร์นี้จึงคาดว่าจะมีการรับรองชัยชนะของนายไบเดนอย่างเป็นทางการ
ที่ผ่านมา ศาลทั้งของรัฐบาลกลางและของรัฐต่าง ๆ ได้ปฏิเสธการฟ้องร้องของคณะกฎหมายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ต้องการให้ยกเลิกผลการเลือกตั้งในหลายพื้นที่จากข้อกล่าวหาว่ามีการทุจริตเลือกตั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นและน่าเชื่อถือ
เมื่อวันศุกร์ ศาลสูงของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้ปฏิเสธที่จะพิจารณาคดีในรัฐเท็กซัสที่คณะกฎหมายของทรัมป์ยื่นฟ้องให้ยกเลิกผลการเลือกตั้งใน 4 รัฐซึ่งนายไบเดนเป็นผู้ชนะ
และในวันเสาร์ ปธน.ทรัมป์ ทวีตข้อความอีกครั้งว่า "การต่อสู้เพิ่งจะเริ่มขึ้น" และ "ฉันคือผู้ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย" ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้
ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์หลายพันคนเดินขบวนในกรุงวอชิงตันเพื่อคัดค้านผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี และยืนกรานให้ประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ในตำแหน่งต่อไป นอกจากนี้ยังมีการเดินขบวนลักษณะเดียวกันในหลายเมืองทั่วประเทศ
ตำรวจกรุงวอชิงตันระบุว่าการประท้วงลุกลามไปเป็นความรุนแรงในคืนวันเสาร์ เมื่อมีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและต่อต้านทรัมป์ โดยมีรายงานผู้ถูกแทงด้วยมีดได้รับบาดเจ็บ 4 ราย และมีผู้ถูกจับกุม 23 ราย