BEIJING —
ทีมวิเคราะห์จาก Euromonitor International ระบุว่า ลูกค้าชาวจีนยังจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในตลาดแบรนด์เนมทั่วโลกในระยะ 10 ปีข้างหน้า ทว่ามีปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของนักช้อปแดนมังกรไป
- นักช้อปจีนเริ่มรัดเข็มขัดด้วยปรับวิธีการจับจ่ายสินค้าแบรนด์เนมลดราคากันมากขึ้น จากมาตรการควบคุมระดับหนี้ครัวเรือนของรัฐบาลจีน และค่าเงินหยวนที่อ่อนค่า
- พฤติกรรมการช้อปของชาวจีนที่หันมาซื้อสินค้าแบรนด์เนมซึ่งจำหน่ายในสาขาที่ประเทศจีนแทนการบินไปช้อปถึงแหล่งในต่างแดน
- การปราบปรามธุรกิจรับหิ้วสินค้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศโดยไม่เสียภาษีของศุลกากรจีน
- ความกังวลเรื่องการก่อการร้ายในเมืองใหญ่ทั่วยุโรป ทำให้นักช้อปแวะไปตามเมืองใหญ่น้อยลง
- พฤติกรรมการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีน ที่เปลี่ยนจากการพึ่งพากรุ๊ปทัวร์มาเป็นการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจสินค้าแบรนด์เนมทั่วโลก ต่างได้รับผลกระทบจากทิศทางการบริโภคสินค้าแบรนด์เนมของนักช้อปชาวจีน อย่าง Louis Vuitton และ Burberry ที่ได้รับอานิสงส์จากลูกค้าชาวจีนราว 90,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีในสินค้าระดับไฮเอนด์ และ Tiffany&Co. ที่มียอดขายร่วงลง 12% จากแรงซื้อที่ลดลงของลูกค้าชาวจีน