กองทัพเมียนมาโจมตีผู้ประท้วง-ชนกลุ่มน้อย ต่อเนื่อง คาดเสียชีวิตแล้วกว่า 550 คน

Anti-coup protesters raise decorated Easter eggs along with the three-fingered symbols of resistance during a protest against the military coup on Easter, April 4, 2021, in Yangon, Myanmar.

กองกำลังความมั่นคงของเมียนมายิงใส่ผู้ประท้วงเสียชีวิต 5 รายเมื่อวันเสาร์ ในขณะที่กองทัพเมียนมายังคงใช้กำลังปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง รวมทั้งปิดกั้นอินเทอร์เน็ตในหลายเมืองทั่วประเทศ จนถึงขณะนี้

สื่อเมียนมานาว และ พะโค วีคลี่ เจอนัล รายงานว่า มีผู้ประท้วงเสียชีวิต 3 รายในเมืองโมนยวา 1 รายที่เมืองสะเทิม และอีก 1 รายที่เขตพะโค

กลุ่มรณรงค์ส่วนท้องถิ่น The Assistance Association for Political Prisoners คาดการณ์ว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 550 คนจากการประท้วงในเมียนมาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ในจำนวนนี้ 46 คนเป็นเด็ก

การประท้วงในเมียนมาขณะนี้ปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการเดินขบวนในเมืองใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน ไปเป็นการประท้วงแบบ “กองโจร” ที่มีผู้เข้าร่วมกลุ่มเล็ก ๆ และมีการชุมนุมและสลายตัวอย่างรวดเร็วก่อนที่กองกำลังทหารจะมาถึง นอกจากนี้ยังมีการรวมตัวจุดเทียนขับไล่ความชั่วร้ายในตอนกลางคืนด้วย

ด้านกองทัพเมียนมาก็เพิ่มการควบคุมด้วยการปิดกั้นอินเทอร์เน็ตและตัดเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคมต่าง ๆ สำหรับประชาชนส่วนใหญ่ เหลือเพียงชาวเมียนมาจำนวนน้อยที่ยังสามารถแชร์รูปภาพและวิดีโอผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ได้

รัฐบาลทหารเมียนมาออกหมายจับผู้ที่มีชื่อเสียงจำนวน 18 คน รวมถึงผู้วิจารณ์กองทัพทางสื่อออนไลน์ และนักข่าวอีกสองคน ในข้อหาต่อต้านกฎหมายที่กองทัพนำมาใช้ในช่วงที่กำลังเกิดวิกฤติการเมืองในเมียนมา ซึ่งอาจต้องโทษจำคุกสามปี โดยมีการโพสต์หมายจับและรูปของพวกเขาทั้ง 18 คน ทางสื่อต่าง ๆ รวมทั้ง Facebook YouTube และ Twitter

ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จาลีนา พอร์เตอร์ มีคำแถลงประณามการปิดกั้นสื่ออินเทอร์เน็ตในเมียนมา โดยแสดงความหวังว่าจะไม่สามารถปิดกั้นเสียงเรียกร้องของชาวเมียนมาได้

นอกจากนั้น กองทัพเมียนมายังได้เริ่มทำสงครามกับชนกลุ่มน้อยที่ประกาศสนับสนุนการประท้วงต่อต้านรัฐประหาร เช่น กองกำลังชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยง Karen National Union (KNU) ทางภาคตะวันออก โดยมีการส่งเครื่องบินรบโจมตีใส่ฐานที่มั่นของกลุ่ม KNU เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี

สื่อเมียนมารายงานว่า มีชาวกะเหรี่ยงเสียชีวิตราว 20 คนจากการโจมตีทางอากาศดังกล่าวรวมทั้งผู้หญิงและเด็ก และมีเหมืองทองคำถูกทำลายหนึ่งแห่ง ขณะที่กลุ่ม KNU รายงานว่า มีชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่ที่ถูกโจมตีมากกว่า 12,000 คน

การสู้รบยังลุกลามไปถึงแถบภาคเหนือ ระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยคะฉิ่น ซึ่งทำให้มีผู้ลี้ภัยจำนวนมากข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งไทยและอินเดีย