Your browser doesn’t support HTML5
ขณะนี้มีการจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อการใช้ข่าวสารที่บิดเบือนเป็นอาวุธในสงครามจิตวิทยา ที่หวังผลสร้างความไม่เชื่อใจในตัวบุคคลสำคัญ ใส่ร้ายป้ายสี และก่อความปั่นป่วน
และอาวุธด้านข่าวกำลังทรงพลังมากขึ้น เมื่อผู้ปล่อยข้อมูลเท็จสามารถสร้างสื่อวิดีโอที่แสดงภาพบุคคลสำคัญพูดหรือแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมได้เหมือนตัวจริง
เครื่องมือตบตาผู้รับสารที่แนบเนียนนี้เรียกว่า ‘Deepfake’ ซึ่งอาศัยเทคโนโลยีภูมิปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่เดิมทีถูกสร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบความคิดของมนุษย์ และกำลังถูกพัฒนาให้สามารถเลียนแบบพฤติกรรม น้ำเสียง และท่วงทำนองการพูดได้ด้วย
ไม่นานนี้สื่อ BuzzFeed นำภาพและเสียง ผู้เลียนแบบประธานาธิบดีโอบามาผ่านเทคโนโลยี ‘Deepfake’ มาเผยแพร่บน Youtube
ไม่เพียงแต่เสียงที่เหมือน แต่ภาพที่เห็นก็คือประธานาธิบดีโอบามาที่ถูกผสมผสานด้วยการเลียนแบบโดยคอมพิวเตอร์ ทั้งการขยับปากและเสียง ซึ่งกำลังให้คำเตือนถึง ภัยจาก ‘Deepfake’ ทั้งที่ตัวจริงของอดีตผู้นำสหรัฐฯ ไม่เคยพูดข้อความเหล่านี้ออกอากาศเลย
แม้คลิปดังกล่าวมีส่วนที่เป็นมุขตลก แต่หากว่า ‘Deepfake’ ถูกใช้ในการสร้างสถานการณ์ลวง เช่น การประกาศข่าวเตือนภัย หรือ การกล่าวคำเหยียดเชื้อชาติสีผิว ผลของข่าวเท็จหรือ fake news ก็จะมีความร้ายแรงน่ากังวลยิ่ง
ในขณะเดียวกัน หน่วยงานของสหรัฐฯ ที่ชื่อ Defense Advanced Research Projects จึงริเริ่มโครงการพัฒนาเทคโนโลยีจับเท็จจากภาพและวิดีโอที่มีการตัดต่อแนบเนียน ซึ่งเหลือเวลาอีก 2 ปี ตามระยะเวลาของโครงการ 4 ปี
แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนเร็วๆ นี้ คือการเลือกตั้งกลางเทอมของรัฐสภาสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้
Hany Farid ผู้เชี่ยวชาญการสืบพิสูจน์ทางดิจิทัล แห่งมหาวิทยาลัย Dartmouth College ของสหรัฐฯ กล่าวว่า น่าจะเห็นการใช้เทคโนโลยี ‘Deepfake’ ในช่วงการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกสองปีจากนี้
วุฒิสมาชิก Marco Rubio ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภา แสดงความกังวลต่อภัยของเทคโนโลยี ‘Deepfake’ ที่อาจทำให้เกิดข่าวเท็จในรูปแบบวิดีโอ ซึ่งสร้างความโกลาหลและความมั่งคงในช่วงเวลาที่สำคัญ รวมถึงก่อนการเลือกตั้งได้
แม้ปัจจุบัน การดูคลิปอย่างละเอียดอาจสามารถจับเท็จจากวิดีโอที่ถูกสร้างขึ้นโดย ‘Deepfake’ ได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า อีกหนึ่งถึงสองปีจากนี้ความแนบเนียนของเทคโนโลยีที่ว่านี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
(รายงานโดย Associated Press/ รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียง)