สหรัฐฯ กับ ทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์

A man holds up a sign against Critical Race Theory during a protest outside a Washoe County School District board meeting in Reno, Nev. (Andy Barron/Reno Gazette-Journal via AP, File)

Your browser doesn’t support HTML5

Critical Race Theory


ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีคำว่า "ทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์" หรือ “critical race theory” ซึ่งเรียกย่อๆ ว่า CRT ได้รับความสนใจในสภานิติบัญญัติของรัฐต่างๆ และในการชุมนุมทางการเมืองของสหรัฐฯ มากขึ้น

CRT หรือทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์นี้ได้กลายเป็นประเด็นสำคัญของฝ่ายอนุรักษ์นิยม โดยหลายๆ รัฐที่ควบคุมโดยพรรครีพับลิกันได้ผ่านกฎหมายที่จำกัดวิธีการสอนเรื่องประวัติศาสตร์และเชื้อชาติในโรงเรียนของรัฐบาล

สำหรับบางคน ทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์คือวิธีการทำความเข้าใจว่าเรื่องเชื้อชาติได้มีอิทธิพลต่อสังคมอเมริกันและนโยบายสาธารณะอย่างไรบ้าง แต่สำหรับบางคน ทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์คือสิ่งที่สร้างความแตกแยกและความขัดแย้งระหว่างคนผิวขาวกับชนกลุ่มน้อยในประเทศ

แต่ปัญหาก็คือแม้ในกลุ่มคนที่วิพากษ์โจมตีทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์เอง ขณะนี้ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนว่าแนวคิดนี้คืออะไร

ในแง่หนึ่ง ทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์เป็นวิธีการคิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอเมริกาจากมุมมองเรื่องชาติพันธุ์ ซึ่งให้เหตุผลว่าการเหยียดเชื้อชาตินั้นไม่ได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอคติส่วนบุคคลและการเลือกปฏิบัติเท่านั้น โดย CRT หรือทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์มองว่าการเหยียดเชื้อชาติเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบในสถาบันต่างๆ ของประเทศ ทฤษฎีนี้ยังชี้ด้วยว่าสถาบันต่างๆ ของประเทศพยายามทำให้คนผิวขาวเป็นกลุ่มที่มีอำนาจมากที่สุด

โดยบรรดาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยตลอดจนคนในแวดวงวิชาการเริ่มมีแนวคิดเรื่อง CRT นี้ในช่วงทศวรรษที่ 1970 และ 1980 เพื่อตอบสนองต่อสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นปัญหาการขาดความก้าวหน้าเรื่องความทัดเทียมด้านชาติพันธุ์

ทั้งนี้ ผู้สร้างทฤษฎีให้เหตุผลว่าสหรัฐฯ ก่อตั้งประเทศขึ้นบนดินแดนและจากแรงงานที่ถูกขโมยมา โดยการล่าอาณานิคมบนที่ดินของชาวพื้นเมืองและทาส ผู้สนับสนุนทฤษฎีนี้ยังเชื่อว่าเชื้อชาติไม่ใช่เรื่องของชีววิทยา แต่เป็นการสร้างขึ้นมาด้วยวัฒนธรรม

ในขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานข้อมูลอย่างเพียงพอที่แสดงว่ามีการสอนทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์ในโรงเรียนของรัฐบาล แต่ก็มีการสอนแนวคิดบางอย่างเกี่ยวกับทฤษฎีนี้อยู่

ตัวอย่างเช่น คุณแทสซี ซาห์เนอร์ (Tassie Zahner) เป็นครูสอนประวัติศาสตร์อเมริกันระดับ Advanced Placement หรือ AP ในรัฐแมรี่แลนด์ ทั้งนี้ AP เป็นโครงการที่สอนหลักสูตรระดับมหาวิทยาลัยให้นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย เธอบอกว่าคงเป็นเรื่องยากมากที่จะสอนนักเรียนของเธอโดยไม่ใช้แนวคิดบางอย่างของทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์ อย่างเช่น ประวัติศาสตร์การเหยียดเชื้อชาติของอเมริกา และว่าในการสอนวิชาประวัติศาสตร์อเมริกันระดับ AP ได้อย่างถูกต้องจะต้องมีการสอนความจริงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ด้วย

แต่ผู้ปกครองและผู้ร่างกฎหมายหัวโบราณบางคนมองว่าการใช้ทฤษฎีดังกล่าวในการสอนจะทำให้เกิดปัญหา

ที่เมืองกรีนนิช รัฐคอนเนตทิคัต นักเรียนมัธยมต้นบางคนได้ตอบแบบสอบถามเรื่อง "white bias" หรือ “อคติของคนผิวขาว” ซึ่งทำให้ผู้ปกครองบางคนไม่พอใจ ส่วนเขตการศึกษา Wake County ในรัฐ North Carolina ได้จัดการประชุมสำหรับครูเกี่ยวกับ CRT หรือทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์ และได้สร้างความไม่พอใจให้แก่สมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรครีพับลิกันในรัฐนี้ด้วย

ขณะนี้ รัฐ North Carolina เป็น 1 ใน 26 รัฐที่ได้เสนอร่างกฎหมายเพื่อปิดกั้นทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์ หรือจำกัดวิธีที่ครูจะสามารถอภิปรายในชั้นเรียนเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติหรือการกีดกันทางเพศ และวารสาร Education Week รายงานว่า ลิซา ลูเตน (Lisa Luten) โฆษกหญิงของเขตการศึกษา Wake County ได้กล่าวว่า ทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์ไม่ใช่สิ่งที่ครูจะสอนให้กับนักเรียน แต่เป็นทฤษฎีทางวิชาการเกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติที่ผู้ใหญ่ใช้ในการพูดคุยสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวมากกว่า

สำหรับคำถามที่ว่าเหตุใดจึงมีผู้ไม่พอใจเรื่องนี้ บรรดานักอนุรักษ์นิยมรวมถึงฝ่ายรีพับลิกันหลายคนกล่าวว่า ทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์หรือ CRT นั้นเป็นความพยายามที่จะเขียนประวัติศาสตร์อเมริกันขึ้นมาใหม่ และอ้างว่า CRT พยายามจะบอกว่าคนอเมริกันผิวขาวเป็นกลุ่มคนที่เหยียดสีผิวมาแต่กำเนิด และคนเหล่านั้นควรจะรู้สึกผิดในสิทธิพิเศษที่ตนได้รับ

อย่างไรก็ตาม คำว่า "ทฤษฎีเชื้อชาติเชิงวิพากษ์" นี้เพิ่งจะถูกใช้เป็นคำอธิบายทั่วไปสำหรับแนวคิดทางด้านเชื้อชาติที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมไม่พอใจ และแนวคิดเรื่องนี้ก็รวมถึงสิทธิพิเศษของคนอเมริกันผิวขาว ความไม่เท่าเทียมกันของระบบ และความมีอคติโดยธรรมชาติด้วย

Rep. Dan Bishop, R-N.C., speaks about his opposition to critical race theory during a news conference on Capitol Hill in Washington. (AP Photo/Jacquelyn Martin, File)

ทั้งนี้ หลังจากที่ 26 รัฐของสหรัฐฯ ได้พิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว 8 รัฐได้สั่งห้ามหรือจำกัดการสอนเกี่ยวกับ CRT และแนวคิดที่คล้ายคลึงกัน โดยคำสั่งห้ามทั้งหมดนี้มีขึ้นในรัฐที่นำโดยพรรครีพับลิกัน นอกจากนี้แนวคิดการห้ามสอน CRT ยังขยายไปยังบางประเทศด้วย เช่น เมื่อปลายเดือนมิถุนายน วุฒิสภาของออสเตรเลียลงมติให้ถอด CRT ออกจากหลักสูตรการศึกษาของโรงเรียนในประเทศ โดยวารสาร The Conversation ของออสเตรเลียรายงานว่านักการเมืองและสื่อมวลชนบางกลุ่มเกรงว่าจะมีการสอนเกี่ยวกับการกดขี่ การแบ่งแยกปฏิบัติ และการต่อสู้ของชนพื้นเมืองในประเทศในโรงเรียนของออสเตรเลียมากเกินไป

ที่มา : The Associated Press