ชาวยุโรปหลายประเทศร่วมจุดกระแสการประท้วงต่อต้านเหยียดสีผิว

ชาวยุโรปในหลายประเทศร่วมชุมนุมและเดินขบวนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อประท้วงการเหยียดสีผิวและการกระทำของตำรวจต่อคนผิวสี เหมือนที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ สืบเนื่องจากเหตุการณ์ตำรวจนครมินนีแอโปลิสใช้กำลังจับกุมชายอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน จอร์จ ฟลอยด์ จนเสียชีวิต

อังกฤษ

ประชาชนชาวอังกฤษรวมตัวหน้าสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงลอนดอน ในวันอาทิตย์ แม้ทางการออกมาเตือนเรื่องการระบาดของโควิด-19 โดยมีหลายคนที่สวมหน้ากากป้องกันโคโรนาไวรัส พร้อมข้อความว่า "การเหยียดผิวคือไวรัสชนิดหนึ่ง"

ผู้ประท้วงช่วยกันปลดรูปปั้นของนักค้าทาสที่เมืองบริสตอล และโยนลงในทะเลระหว่างการประท้วงในวันอาทิตย์

ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน ผู้ประท้วงหลายพันคนรวมตัวใจกลางกรุงลอนดอนเพื่อประท้วงอย่างสันติ แต่มีผู้ประท้วงบางส่วนปะทะกับตำรวจบริเวณทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษ

ทางสำนักงานตำรวจกรุงลอนดอน รายงานว่า มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 27 คนจากการปะทะกับผู้ประท้วงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้ง 14 คนเมื่อวันเสาร์

เยอรมนี

ตำรวจเยอรมันจับกุมผู้ประท้วง 93 คน ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการก่อความรุนแรงระหว่างการประท้วงในกรุงเบอร์ลินเมื่อวันเสาร์

ประชาชนกว่า 15,000 คนเดินขบวนอย่างสงบในกรุงเบอร์ลิน เพื่อแสดงการสนับสนุนการประท้วงเรียกร้องสิทธิของคนผิวสีในสหรัฐฯ

สำนักงานตำรวจกรุงเบอร์ลิน รายงานว่า มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 28 นายจากขวดและก้อนหินที่ถูกปามาจากผู้ประท้วง

ฝรั่งเศส

มีการเดินขบวนที่เมืองมาร์กเซย์และกรุงปารีสโดยมีผู้เข้าร่วมหลายพันคน การประท้วงส่วนใหญ่เป็นไปอย่างสงบแต่มีการปะทะกันกับตำรวจบ้างประปราย

ตำรวจเมืองมาร์กเซย์ใช้แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยสลายการชุมนุมของผู้ประท้วงที่ตอบโต้ด้วยขวดและก้อนหิน ที่บริเวณ Old Port on the Mediterranean

ผู้ประท้วงในฝรั่งเศสต่างพากันตะโกนเรียกร้องความยุติธรรมให้กับประชาชนผิวสี ที่มักตกเป็นเป้าหมายของตำรวจจากการละเมิดหรือเลือกปฏิบัติต่อประชากรกลุ่มนี้ไม่ต่างจากที่เกิดขึ้นในอเมริกา