ยุโรปบรรลุข้อตกลงซื้อวัคซีนโควิด-19 จากไฟเซอร์ในราคาต่ำกว่าสหรัฐฯ

FILE PHOTO: Syringes are seen in front of displayed Biontech and Pfizer logos in this illustration taken November 10, 2020. REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo

Your browser doesn’t support HTML5

Business News


สหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงกับบริษัทยา Pfizer (ไฟเซอร์) เพื่อสั่งซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวนราว 300 ล้านโดส ในราคาที่ต่ำกว่าที่สหรัฐฯ ต้องจ่าย

สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของอียูรายหนึ่งเปิดเผยข้อมูลนี้ให้ผู้สื่อข่าวของตน หลังการมีการประกาศข่าวข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนนี้ในวันพุธตามเวลาในยุโรป

วัคซีนต้านโควิด-19 ที่ Pfizer ร่วมผลิตกับบริษัท BionTech ของเยอรมนี คือโครงการที่ถือว่ามีความก้าวหน้าระดับต้นๆ ในโลก โดยเฉพาะหลังผู้บริหารของบริษัทเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า การทดลองในเฟสที่ 3 ประสบความสำเร็จกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ในการช่วยป้องกันผู้ร่วมทดสอบจำนวนมากจากการติดเชื้อโควิด-19

People walk by the Pfizer world headquarters in New York on Nov. 9, 2020.


รายงานข่าวระบุว่า ข้อตกลงที่ทำกันนี้ ประเทศสมาชิกอียู 27 ประเทศสามารถสั่งซื้อวัคซีนรวมกันเป็นจำนวน 200 ล้านโดส และสามารถเพิ่มจำนวนออเดอร์อีก 100 ล้านโดส ถ้าต้องการ โดยราคาที่จะต้องจ่ายอยู่ที่ไม่เกิน 19.50 ดอลลาร์ต่อการฉีดหนึ่งครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่อาวุโสของอียูที่เปิดเผยข้อมูลนี้ อ้างว่า เป็นราคาที่สะท้อนภาพความช่วยเหลือด้านการเงินที่ทั้งอียูและเยอรมนีหยิบยื่นให้กับโครงการนี้

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ธนาคารเพื่อการลงทุนของยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สหภาพยุโรป อนุมัติเงินกู้จำนวน 100 ล้านยูโร หรือประมาณ 118 ล้านดอลลาร์ ให้แก่ BionTech เพื่อการพัฒนาและการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ก่อนที่เยอรมนีจะอนุมัติเงินสนับสนุนจำนวน 375 ล้านยูโรให้อีกในเดือนกันยายน

Pfizer vaccine covid

สำหรับสหรัฐฯ ราคาวัคซีนจาก Pfizer นั้นถูกกำหนดไว้ที่ 19.50 ดอลลาร์ต่อการฉีดหนึ่งครั้ง สำหรับออเดอร์ 100 ล้านโดสที่สั่งไว้ โดยสามารถสั่งซื้อเพิ่มอีก 500 ล้านโดสภายใต้เงื่อนไขที่มีการเจรจาแยกต่างหากออกมา ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนเรื่องราคาในเวลานี้

ก่อนหน้านี้ BionTech ส่งสัญญาณว่า จำนวนโดสที่สั่งซื้อจะมีผลต่อราคาต่อโดส สำหรับผู้ซื้อจากประเทศพัฒนาแล้ว ขณะที่ ผู้ผลิตวัคซีนจะคิดราคาที่ต่างออกไปสำหรับประเทศหรือภูมิภาคอื่นๆ

นอกจากวัคซีนจาก Pfizer และ BionTech แล้ว อียูได้ลงนามคำสั่งซื้อวัคซีนจากบริษัท AstraZeneca บริษัท Sanofi และบริษัท Johnson & Johnson แล้ว ทั้งยังอยู่ในการเจรจากับบริษัท Moderna บริษัท CureVac และบริษัท Novavax เพื่อซื้อวัคซีนเพิ่มด้วย