Your browser doesn’t support HTML5
สหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงกับบริษัทยา Pfizer (ไฟเซอร์) เพื่อสั่งซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวนราว 300 ล้านโดส ในราคาที่ต่ำกว่าที่สหรัฐฯ ต้องจ่าย
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของอียูรายหนึ่งเปิดเผยข้อมูลนี้ให้ผู้สื่อข่าวของตน หลังการมีการประกาศข่าวข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนนี้ในวันพุธตามเวลาในยุโรป
วัคซีนต้านโควิด-19 ที่ Pfizer ร่วมผลิตกับบริษัท BionTech ของเยอรมนี คือโครงการที่ถือว่ามีความก้าวหน้าระดับต้นๆ ในโลก โดยเฉพาะหลังผู้บริหารของบริษัทเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า การทดลองในเฟสที่ 3 ประสบความสำเร็จกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ในการช่วยป้องกันผู้ร่วมทดสอบจำนวนมากจากการติดเชื้อโควิด-19
รายงานข่าวระบุว่า ข้อตกลงที่ทำกันนี้ ประเทศสมาชิกอียู 27 ประเทศสามารถสั่งซื้อวัคซีนรวมกันเป็นจำนวน 200 ล้านโดส และสามารถเพิ่มจำนวนออเดอร์อีก 100 ล้านโดส ถ้าต้องการ โดยราคาที่จะต้องจ่ายอยู่ที่ไม่เกิน 19.50 ดอลลาร์ต่อการฉีดหนึ่งครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่อาวุโสของอียูที่เปิดเผยข้อมูลนี้ อ้างว่า เป็นราคาที่สะท้อนภาพความช่วยเหลือด้านการเงินที่ทั้งอียูและเยอรมนีหยิบยื่นให้กับโครงการนี้
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ธนาคารเพื่อการลงทุนของยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สหภาพยุโรป อนุมัติเงินกู้จำนวน 100 ล้านยูโร หรือประมาณ 118 ล้านดอลลาร์ ให้แก่ BionTech เพื่อการพัฒนาและการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ก่อนที่เยอรมนีจะอนุมัติเงินสนับสนุนจำนวน 375 ล้านยูโรให้อีกในเดือนกันยายน
สำหรับสหรัฐฯ ราคาวัคซีนจาก Pfizer นั้นถูกกำหนดไว้ที่ 19.50 ดอลลาร์ต่อการฉีดหนึ่งครั้ง สำหรับออเดอร์ 100 ล้านโดสที่สั่งไว้ โดยสามารถสั่งซื้อเพิ่มอีก 500 ล้านโดสภายใต้เงื่อนไขที่มีการเจรจาแยกต่างหากออกมา ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนเรื่องราคาในเวลานี้
ก่อนหน้านี้ BionTech ส่งสัญญาณว่า จำนวนโดสที่สั่งซื้อจะมีผลต่อราคาต่อโดส สำหรับผู้ซื้อจากประเทศพัฒนาแล้ว ขณะที่ ผู้ผลิตวัคซีนจะคิดราคาที่ต่างออกไปสำหรับประเทศหรือภูมิภาคอื่นๆ
นอกจากวัคซีนจาก Pfizer และ BionTech แล้ว อียูได้ลงนามคำสั่งซื้อวัคซีนจากบริษัท AstraZeneca บริษัท Sanofi และบริษัท Johnson & Johnson แล้ว ทั้งยังอยู่ในการเจรจากับบริษัท Moderna บริษัท CureVac และบริษัท Novavax เพื่อซื้อวัคซีนเพิ่มด้วย