บริษัทยา ไฟเซอร์ (Pfizer) เปิดเผยผลการทดสอบวัคซีนโควิด-19 เฟส 3 ซึ่งประสบผลสำเร็จมากกว่า 90%
นายอัลเบิร์ต บัวร์ลา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานฝ่ายบริหารของไฟเซอร์ ประกาศผลการทดสอบวัคซีนเฟส 3 ขั้นตอนท้าย ในวันจันทร์ร่วมกับบริษัทพันธมิตร BioNTech โดยระบุว่าประสบความสำเร็จมากกว่า 90% ในการป้องกันการติดเชื้อโคโรนาไวรัสของกลุ่มตัวอย่างอาสาสมัครที่เข้าร่วมในการทดสอบ
การวิเคราะห์ข้อมูลการทดสอบครั้งนี้จัดทำโดยคณะกรรมการอิสระ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมเกือบ 40,000 คนใน 6 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ
นายอัลเบิร์ต บัวร์ลา กล่าวว่าผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าวัคซีนชนิดนี้สามารถช่วยป้องกันการติดโควิด-19 ในคนส่วนใหญ่ที่ได้รับวัคซีน และถือเป็นก้าวสำคัญสำหร้บการทดสอบขั้นต่อไป อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าเฉพาะแค่ผลการทดสอบนี้อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือ เอฟดีเอ สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน และจำเป็นต้องมีการเก็บข้อมูลด้านความปลอดภัยของวัคซีนเพิ่มเติม
ซีอีโอของไฟเซอร์ผู้นี้ชี้ว่า ข้อมูลด้านความปลอดภัยของวัคซีนเข็มที่สองและเข็มสุดท้ายในช่วงเวลาเฉลี่ยสองเดือนตามแนวทางที่เอฟดีเอกำหนดไว้นั้น จะสามารถเปิดเผยออกมาได้ในช่วงสัปดาห์หน้า ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป
ก่อนหน้านี้ นายแพทย์แอนโธนี เฟาชี่ แห่งสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่าวัคซีนที่มีอัตราผลสำเร็จในระดับ 70 - 75% ถือว่ายอมรับได้
และในวันจันทร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความแสดงความยินดีต่อข่าวความคืบหน้าด้านวัคซีนของไฟเซอร์ โดยบอกว่าเป็น "ข่าวดีอย่างยิ่ง" และว่า ดัชนีหุ้นต่าง ๆ ต่างดีดตัวสูงขึ้นรับข่าวนี้
ทางด้านว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ โจ ไบเดน มีแถลงการณ์แสดงความยินดีต่อการประกาศของไฟเซอร์เช่นกัน แต่ก็เตือนว่าการต่อสู้กับโควิด-19 ยังต้องดำเนินต่อไปอีกหลายเดือน