โครงการพัฒนาวัคซีนโควิดของอังกฤษประกาศพักการทดลองหลังอาสาสมัครล้มป่วย

Results published July 20, 2020, in the British medical journal The Lancet report on a vaccine developed by pharmaceutical company AstraZeneca and Oxford University.  

โครงการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ระหว่างบริษัทยา AstraZeneca และมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ ต้องหยุดชะงักชั่วคราว หลังมีรายงานว่าหนึ่งในอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองล้มป่วยลง

บริษัทยา AstraZeneca ประกาศหยุดการทดลองโครงการวัคซีนต้านโควิด-19 ของตนเป็นการชั่วคราวในวันพุธ โดยระบุว่า การตัดสินใจพักการทดลองนี้เป็นหลักปฏิบัติตามปกติ ในกรณีที่เกิดมีผู้เข้าร่วมโครงการเจ็บป่วยจากสาเหตุที่ไม่ชัดเจน และต้องมีการสอบสวนเสียก่อน พร้อมระบุว่า การสอบสวนนั้นจะกระทำอย่างอิสระโดยทีมงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทดลอง ขณะที่ทางบริษัทพยายามทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับอาการป่วยนี้อย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้กระทบต่อแผนงานการทดสอบวัคซีน และเพื่อให้มั่นใจว่า ผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนจะปลอดภัยเสมอ

รายงานข่าวระบุว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของอาการป่วยของอาสาสมัครออกมามาก แต่มีข้อมูลว่า ผู้ป่วยเป็นอาสาสมัครชาวอังกฤษและมีอาการอักเสบที่ไขสันหลัง แต่คาดว่าอาการจะดีขึ้นในไม่ช้า

โครงการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ของ AstraZeneca และมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดถือเป็นโครงการที่มีความหวังมากที่สุดโครงการหนึ่งที่จะประสบความสำเร็จในอนาคตอันใกล้ โดยขณะนี้การทดลองอยู่ในขั้นที่ 3 ซึ่งมีการใช้อาสาสมัครราว 30,000 คนจากสหรัฐฯ อังกฤษ บราซิล และแอฟริกาใต้

นายแพทย์ อเล็กซานเดอร์ เอ็ดเวิร์ดส นักภูมิคุ้มกันวิทยา จากมหาวิทยาลัยเรดดิ้ง ในอังกฤษ บอกกับ วีโอเอ ในวันอังคารว่า ณ เวลานี้ ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าอาการป่วยที่เกิดขึ้นกับอาสาสมัครรายนี้เกี่ยวข้องกับตัวยาในวัคซีนที่ใช้ในการทดลอง ขณะที่การหยุดพักการทดสอบบ้างนั้นเป็นเรื่องปกติของกระบวนการทดลอง

ขณะเดียวกัน แมทท์ แฮนค็อค รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ กล่าวว่า ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าการสอบสวนที่ยังเดินหน้าอยู่นี้จะใช้เวลาเท่าใด

นายแพทย์ อเล็กซานเดอร์ เอ็ดเวิร์ดส กล่าวเพิ่มเติมว่า ในเวลานี้ มีโครงการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ทั่วโลกอย่างน้อย 3 โครงการที่เข้าสู่การทดลองในขั้นที่ 3 แล้ว พร้อมย้ำว่า แม้หลังการพัฒนาวัคซีนดังกล่าวสิ้นสุดลงพร้อมผลสำเร็จและได้รับอนุมัติจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั่วโลกยังคงต้องรออีกสักพักกว่าการผลิตวัคซีนเป็นจำนวนหลายพันล้านโดสจะพร้อมใช้งานเพื่อควบคุมการระบาดในทุกประเทศได้