นพ.แอนโธนี เฟาชี เผยวัคซีนโควิด-19 ไม่น่าผลิตทันก่อนศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะที่ต้องจับตาอีก 17 รัฐในประเทศมียอดติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงต่อเนื่องมาสองสัปดาห์ ตามรายงานของรอยเตอร์
17 รัฐดังกล่าวอยู่ในแถบมิดเวสต์และตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงกรอบเวลาดังกล่าว อาทิ มิสซูรี นอร์ท ดาโกตา และวิสคอนซิน ที่พบสัดส่วนผู้ติดเชื้อใหม่ราว 10-18% ซึ่งมากกว่าระดับ 5% ที่องค์การอนามัยโลกระบุให้เป็นพื้นที่การระบาด
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเมื่อสิ้นสุดวันที่ 6 กันยายน พบว่าทั่วสหรัฐฯมีผู้ติดเชื้อใหม่ 287,000 ราย ลดลงราว 1.4% และเป็นทิศทางขาลงต่อเนื่อง 7 สัปดาห์แล้ว และตัวเลขผู้เสียชีวิตในสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 5,800 คน ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สาม โดยที่สหรัฐฯ ยังเดินหน้าตรวจหาเชื้อโควิด-19กับผู้คนเฉลี่ย 741,000 คนต่อวัน ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากการเพิ่มการตรวจอย่างเข้มข้นราว 8 แสนคนต่อวันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
อีกด้านหนึ่ง นพ. แอนโธนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอังคาร ระบุว่า ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าวัคซีนโควิดจะผลิตได้ทันก่อนศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ สวนทางกับถ้อยแถลงของผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่าวัคซีนจะพร้อมแจกจ่ายไปได้ภายในวันเลือกตั้งสหรัฐฯ 3 พฤศจิกายนนี้
นพ.เฟาชี ยังคงประมาณการเดิมว่าวัคซีนจะพร้อมใช้ได้ปลายปีนี้ ซึ่งตรงกับช่วงที่ผู้ผลิตวัคซีนอย่างน้อย 2 แห่ง รายงานว่าการทดสอบขั้นสุดท้ายจะเสร็จสิ้นปลายกันยายนนี้ ตามรายงานของซีเอ็นบีซีและฟอร์บส
เมื่อสัปดาห์ก่อน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC ยืนยันว่าได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในทั้ง 50 รัฐ รวมทั้งในเขตปกครองของเมืองใหญ่ต่าง ๆ ให้เตรียมตัวแจกจ่ายวัคซีนโคโรนาไวรัสภายในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ สองวันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างแสดงความกังวลว่ากระบวนการอนุมัติวัคซีนโควิดในสหรัฐฯ อาจมีแรงกระตุ้นจากประเด็นการเมือง มากกว่าการยืนยันประสิทธิภาพทางวิทยาศาสตร์