Your browser doesn’t support HTML5
ขณะนี้เป็นเวลากว่า 6 สัปดาห์แล้ว หลังจากที่ทางการอเมริกันเปิดเผยว่าจะมีมาตรการเพื่อส่งเสริมการฉีดวัคซีนต้านโคโรนาไวรัส สำหรับหน่วยงานเอกชนอเมริกันที่มีคนทำงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป โดยให้ทางเลือกว่า หากผู้ใดไม่ฉีดวัคซีน ต้องได้รับตรวจหาเชื้ออย่างเป็นประจำทุกๆ สัปดาห์
สำนักข่าวเอพีคาดว่าในเร็ววันนี้ หน่วยงานภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะออกรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว ซึ่งกำลังก่อให้เกิดเสียงต่อต้านจากหลายกลุ่ม เช่นรัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกัน
ผู้ที่ละเมิดกฎเรื่องการฉีดวัคซีนอาจถูกปรับ $14,000 ต่อหนึ่งกรณีการกระทำผิด และคาดว่าทางการจะให้เวลาปรับตัวโดยไม่ถูกปรับไปจนถึงต้นปีหน้า
หน่วยงานที่ร่างข้อบังคับในเรื่องนี้คือสำนักงาน Occupational Safety and Health Administration ที่ดูเเลงานด้านความปลอดภัยและสุขภาพของผู้ประกอบอาชีพ
เมื่อร่างกฎข้อบังคับได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการ จะมีผลต่อชาวอเมริกัน 80 ล้านคนที่อยู่ในตำแหน่งงานต่างๆ โดยทำเนียบขาวหวังว่ามาตรการนี้จะช่วยส่งผลให้คน 65 ล้านรายที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีนต้านโควิดที่อยู่ในภาคเเรงงานอเมริกัน เปลี่ยนใจมาฉีดวัคซีนมากขึ้น
ทั้งนี้ผู้ที่ทำงานภาคเอกชนในอเมริกา มีทางเลือกที่จะไม่ต้องฉีดวัคซีนเเต่ต้องตรวจโควิดเป็นประจำ แต่หากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้ทำงานด้านการเเพทย์ กลุ่มอาชีพเหล่านี้จะต้องฉีดวัคซีน หรือไม่อาจถูกเลิกจ้างงานได้
ด้วยเหตุนี้เจ้าของธุรกิจจึงมีแนวทางที่เเตกต่างกันสำหรับพนักงานของพวกตน บางเเห่งใช้กฎเข้มเรื่องการฉีดวัคซีน และบางเเห่งอาจพิจารณาว่าจะผลักค่าใช้จ่ายเรื่องการตรวจโควิดสำหรับคนที่ไม่ฉีดวัคซีนไปสู่พนักงานรายนั้นๆ
หอการค้าอเมริกัน หรือ U.S. Chamber of Commerce และกลุ่มตัวเเทนธุรกิจต่างๆ แสดงความกังวลต่อการตั้งเกณฑ์ว่า บริษัทที่มีพนักงาน 100 คนขึ้นไปต้องทำตามข้อบังคับที่กำลังจะออกมานี้
กลุ่มตัวเเทนธุรกิจมองว่า อาจเกิดการเปลี่ยนงานของพนักงานที่ไม่เห็นด้วยกับกฎดังกล่าว จากบริษัทใหญ่ไปยังบริษัทเล็ก ที่มีเเรงงานไม่ถึง 100 ราย นอกจากนั้นยังมีผู้กังวลว่าบริษัทที่มีพนักงานเกือบ 100 คน อาจไม่อยากขยายกิจการให้ใหญ่ขึ้น เพื่อเลี่ยงการผูกพันกับข้อบังคับเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด
มาร์ค ฟรีดเเมน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ หอการค้าอเมริกัน เเสดงความเป็นห่วงว่าการย้ายงานของลูกจ้างที่อาจเกิดขึ้น จะตรงกับช่วงเทศกาลปลายปีที่จะมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการผลิตและการขนส่งสินค้า ซึ่งอาจทำให้เกิดความระส่ำระสายได้
อย่างไรก็ตาม สถิติจากบริษัทที่เริ่มใช้กฎให้เจ้าหน้าที่ของตนฉีดวัคซีนเเสดงให้เห็นว่ามีคนจำนวนน้อยยอมออกจากงานเพราะข้อบังคับดังกล่าว
สายการบิน United Airlines พบว่าพนักงานประมาณ 200 จากทั้งหมด 67,000 คน ยอมเสี่ยงถูกให้ออกจากงาน เนื่องจากไม่ยอมฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 และมีอีกราว 2,000 คนที่ยื่นเรื่องขอยกเว้นด้วยเหตุผลทางการเเพทย์และความเชื่อด้านศาสนา
ในระดับรัฐ เเมสซาชูเสตส์ นิวเจอร์ซีย์และรัฐวอชิงตัน เริ่มใช้ข้อบังคับเรื่องการฉีดวัคซีนเเล้ว
สถิติของรัฐวอชิงตันระบุว่า เจ้าหน้าที่ลาดตระเวณของรัฐจำนวน 127 คน ลาออกจากงานเนื่องจากข้อบังคับเรื่องวัคซีนโควิดคิด เป็นร้อยละ 6 ของเจ้าหน้าที่ด้านนี้ทั้งหมด
สำนักข่าวเอพีรายงานด้วยว่า รัฐที่เป็นฐานเสียงของพรรครีพับลิกันเช่น เท็กซัส น่าจะดำเนินการทางกฎหมายเพื่อต้านการบังคับใช้กฎเรื่องวัคซีนที่กำลังจะมาถึง โดยเมื่อเดือนที่เเล้วอัยการสูงสุดของรัฐต่างๆ ทั้งหมดกว่า 20 รายกล่าวว่าจะใช้ช่องทางทางกฎหมายที่มีทั้งหมดเพื่อต้านกฎดังกล่าวของรัฐบาลกลาง
(ที่มา: สำนักข่าวเอพี)