ผลสำรวจ ชี้ ชาวอเมริกันเกินครึ่งสนับสนุนให้มีมาตรการสวมหน้ากากและฉีดวัคซีน ให้กับนักเรียนระดับประถมและมัธยม รวมทั้งกับบุคลากรในสถานศึกษาเหล่านี้ ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิดในอเมริกา
การสำรวจโดย Associated Press และ NORC Center for Public Affairs Research ระบุว่า 6 ใน 10 ของชาวอเมริกัน เห็นว่า ทั้งนักเรียนและครูควรสวมหน้ากากระหว่างอยู่ในสถานศึกษา
ในการสำรวจนี้ พบว่า 59% ของชาวอเมริกันในการสำรวจ สนับสนุนมาตรการฉีดวัคซีนโควิดให้กับครูและบุคลากรในสถานศึกษา ส่วน 55% สนับสนุนให้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปเข้ารับวัคซีน และ 42% ของผู้ปกครองในการสำรวจนี้ สนับสนุนให้เด็กๆ เข้ารับวัคซีนก่อนกลับเข้าเรียน
การสำรวจนี้ พบว่า พ่อแม่ผู้ปกครองที่อยู่ในการสำรวจนี้ มีแนวโน้มสนับสนุนมาตรการสวมหน้ากากมากกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยพ่อแม่ผู้ปกครองราว 52% ที่มีบุตรหลานในวัยเรียน ระบุว่า พวกเขาสนับสนุนมาตรการสวมหน้ากากในเด็ก และ 28 % คัดค้านมาตรการนี้ และยังพบว่าพ่อแม่ผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนโควิดแล้ว มีแนวโน้มสนับสนุนมาตรการสวมหน้ากากและฉีดวัคซีนมากกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด
เมื่อแบ่งกลุ่มสำรวจ พบว่า 2 ใน 3 ของพ่อแม่ผู้ปกครองที่เป็นคนผิวสี สนับสนุนมาตรการสวมหน้ากากทั้งกับครูและนักเรียน ขณะที่ราว 50% ของพ่อแม่ผู้ปกครองที่เป็นคนผิวขาวและคนเชื้อสายฮิสแปนิกสนับสนุนมาตรการเดียวกันนี้
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ หรือ CDC ออกคำแนะนำให้ครูและนักเรียนสวมหน้ากาก ระหว่างอยู่ในอาคารเรียน เริ่มต้นตั้งแต่ภาคการศึกษาช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ซึ่งเขตพื้นที่การศึกษาหลายแห่งในอเมริกา เตรียมบังคับให้นักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนสวมหน้ากาก รวมถึงมหานครนิวยอร์ก แต่ยังคงมีประเด็นถกเถียงในหลายรัฐของอเมริกาเรื่องการบังคับสวมหน้ากากในเด็ก
(ที่มา: เอพี)