รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ เดินทางถึงกัมพูชาเมื่อวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น ในระหว่างการเยือนพันธมิตรอาเซียนที่ใกล้ชิดที่สุดของจีน เป็นเวลา 3 วัน
รมต.หวัง มีกำหนดการหารือกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเน็ต และ ฮุน เซน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสมาชิกวุฒิสภา หลังก้าวลงจากตำแหน่งผู้นำประเทศที่ครองอำนาจยาวนาน 38 ปี และส่งมอบหน้าที่นี้ให้บุตรชายไปเมื่อปีก่อน นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนยังมีกำหนดการเข้าเฝ้ากษัตริย์นโรดม สีหมุนี แห่งกัมพูชาในโอกาสนี้อีกด้วย
การเยือนกัมพูชาของรัฐมนตรีต่างประเทศจีนในครั้งนี้ ถือเป็นพิกัดสุดท้ายของการเยือน 3 ประเทศในเอเชียและโอเชียเนีย ได้แก่ อินโดนีเซียและปาปัวนิวกินี และเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลเรื่องโครงการลงทุนใหญ่ของจีน 2 โครงการในกัมพูชา คือ แผนการขุดคลองและฐานทัพเรือ ซึ่งผู้วิจารณ์ต่างมองว่าแผนลงทุนขนาดใหญ่เหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างผลประโยชน์ด้านการทหารให้รัฐบาลปักกิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ก่อนหน้านี้ กัมพูชาย้ำถึงความมุ่นมั่นในการเดินหน้าโครงการขุดคลองฝูหนานเป็นระยะ 180 กิโลเมตร มูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์ที่เชื่อมต่อกรุงพนมเปญของกัมพูชาไปถึงอ่าวไทย ซึ่งสร้างความกังวลให้กับเวียดนาม โดยนักวิชาการบางรายมองว่าการขุดคลองดังกล่าวจะทำให้จีนเคลื่อนย้ายกองทัพมาทางใต้ ซึ่งใกล้กับชายฝั่งตอนใต้ของเวียดนามที่จีนมีประเด็นขัดแย้งในทะเลจีนใต้ได้ง่ายขึ้น
ขณะที่สหรัฐฯ จับตามองเรื่องความโปร่งใสของรัฐบาลกัมพูชาในโครงการลงทุนดังกล่าว โดยโฆษกสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงพนมเปญ เวสลีย์ โฮลเซอร์ ให้ทัศนะกับวีโอเอว่า “ชาวกัมพูชาและประชาชนในประเทศเพื่อนบ้าน จะได้ประโยชน์จากความโปร่งใสของโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่มีผลต่อการบริหารจัดการน้ำ ความยั่งยืนด้านการเกษตร และความมั่นคงในภูมิภาค”
ส่วนอีกโครงการใหญ่ที่ได้รับการจับตามอง คือ ฐานทัพเรือเรียมบนอ่าวไทย ที่สหรัฐฯ และนักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศบางรายเห็นว่าเป็นโครงการที่ใช้สนับสนุนยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือปักกิ่งในทะเลจีนใต้โดยเฉพาะ แม้ว่ากัมพูชาจะออกโรงปฏิเสธเรื่องดังกล่าวโดยอ้างว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญก็ตามที
ที่ผ่านมา จีนเป็นพันธมิตรและผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อกัมพูชา ด้วยอิทธิพลของจีนต่อเศรษฐกิจประเทศ ทั้งในแง่ของโครงการลงทุนที่จีนหนุนหลังเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งสนามบินและถนนหนทางต่าง ๆ และการลงทุนภาคเอกชนจากจีนที่หลั่งไหลเข้ามาในกัมพูชา อย่างเช่น โรงแรม คาสิโน และอสังหาริมทรัพย์ ยิ่งไปกว่านั้น ภาระหนี้ต่างประเทศมากกว่า 40% ของหนี้ราว 10,000 ล้านดอลลาร์ของกัมพูชามาจากจีน
ส่วนเรื่องของนโยบายต่อจีนของกัมพูชาในยุคของฮุน มาเน็ตนั้น ไม่มีสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายต่างประเทศเดิมในยุคของฮุน เซนผู้เป็นบิดาของเขา โดยเมื่อย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน รมต.หวัง เยือนกัมพูชาไม่กี่วันหลังจากฮุน เซน ประกาศก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเดินหน้าให้การสนับสนุนบุตรชายขึ้นเป็นผู้นำคนต่อไป
การสนับสนุนกัมพูชาของรัฐบาลจีนได้ทำให้กัมพูชาเมินแรงกดดันจากตะวันตกที่วิจารณ์เรื่องสิทธิมนุษยชนและสิทธิการเมืองของประเทศ ขณะที่กัมพูชาก็ออกโรงสนับสนุนจุดยืนของจีนในประเด็นนโยบายต่างประเทศ เช่น ข้อพิพาททะเลจีนใต้
- ที่มา: เอพี