ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีกำหนดเริ่มเยือนยุโรปเป็นระยะเวลา 6 วันในสุดสัปดาห์ที่จะมาถึงนี้ ซึ่งถือเป็นการเดินทางเยือนภูมิภาคดังกล่าวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019 โดยจะแวะฝรั่งเศส เซอร์เบียและฮังการี ขณะที่ หลายฝ่ายจับตาดูการดำเนินภารกิจนี้ของผู้นำจีน ในช่วงที่ยังคงมีความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างกรุงปักกิ่งและสหภาพยุโรปและประเด็นความกังวลเรื่องที่จีนยังคงสนับสนุนรัสเซียอยู่
นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า สงครามรัสเซียในยูเครนและความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาสน่าจะเป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคุยในระหว่างที่ปธน.สีเยือนยุโรป ขณะที่ ผู้นำจีนก็น่าจะหาทางถกประเด็นความตึงเครียดด้านการค้าพร้อม ๆ กับยกระดับความใกล้ชิดกับรัฐบาลบูดาเปสต์และรัฐบาลเบลเกรดไปด้วย
ซูซา แอนนา เฟเรนซี ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ยุโรป-จีน จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติตงหัว ของไต้หวัน บอกกับ วีโอเอ ทางโทรศัพท์ว่า การเดินทางครั้งนี้ของ สี จิ้นผิง น่าจะเพื่อสกัดความพยายามของยุโรปที่จะดำเนินมาตรการด้านการค้าที่เข้มข้นต่อจีน และการแวะเยือนเซอร์เบียและฮังการีก็เป็นส่วนที่มีความสำคัญ โดยเฉพาะการเดินทางไปกรุงบูดาเปสต์ที่น่าจะเป็นโอกาสให้ผู้นำกรุงปักกิ่งได้ตอกลิ่มเข้าไปในความแตกแยกภายในสหภาพยุโรปต่อไปได้
แฟ้มภาพ - ปธน.สี จิ้นผิง และปธน.เอ็มมานูเอล มาคร็อง พูดคุยกันขณะเยือนจวนผู้ว่านครกว่างโจว เมื่อ 7 เม.ย. 2566
ในส่วนของการเยือนฝรั่งเศสที่มีกำหนดระหว่างวันที่ 6 และ 7 พฤษภาคมนั้น ทำเนียบประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง ระบุในแถลงการณ์ว่า “การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นในโอกาสครบรอบ 60 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ และเกิดขึ้นหลังการเยือนกรุงปักกิ่งและนครกว่างโจวของประธานาธิบดี(มาคร็อง) เมื่อเดือนเมษายนปี 2023”
แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุด้วยว่า “การหารือแลกเปลี่ยน(ที่จะเกิดขึ้น)จะเน้นไปที่เรื่องของวิกฤตระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นสงครามในยูเครนเป็นหลัก และสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ประเด็นการค้า ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วัฒนธรรมและการกีฬา(ด้วย)”
- ที่มา: วีโอเอ