สหภาพยุโรป หรือ อียู บรรลุข้อตกลงสนับสนุนโครงการก่อสร้างเครือข่ายการคมนาคมขนส่งที่จะเชื่อมยุโรปกับส่วนอื่น ๆ ของโลก เพื่อแข่งขันกับ 'โครงการหนึ่งถนนหนึ่งวงแหวน' หรือที่เรียกกันว่า 'เส้นทางสายไหมยุคใหม่' ของจีน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี ไฮโก มาส กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า จีนกำลังใช้อิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเงินเพื่อสร้างแรงกดดันทางการเมืองในประเทศต่าง ๆ ซึ่งอียูเห็นว่าประเทศเหล่านั้นควรมีทางเลือกอื่นนอกเหนือไปจากโครงการหนึ่งถนนหนึ่งวงแหวนของจีน
อียูระบุว่า มอนเตเนโกร ซึ่งเป็นสมาชิกองค์การนาโต้ และอาจเข้าร่วมกับสหภาพยุโรปเร็ว ๆ นี้ คือประเทศล่าสุดที่ตกอยู่ใน "การทูตกับดักหนี้" ของจีน หลังจากที่ต้องกู้เงินจากรัฐบาลปักกิ่งเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์เพื่อนำมาใช้ในโครงการก่อสร้างถนนไฮเวย์ความยาว 41 กิโลเมตรนอกกรุงพอดโกริกา โดยจีนเป็นผู้ก่อสร้างถนนสายหลักเส้นนี้ให้
ที่ผ่านมา อียูได้ลงนามความร่วมมือกับอินเดียและญี่ปุ่น เพื่อจัดทำเครือข่ายการคมนาคมขนส่ง รวมทั้งด้านพลังงานและเทคโนโลยี ระหว่างยุโรปกับเอเชีย ซึ่งทั้งสองประเทศนั้นต่างมีความกังวลต่อการขยายอิทธิพลทางการเมืองของจีนผ่านโครงการเส้นทางสายไหมยุคใหม่นี้เช่นกัน
ข้อตกลงล่าสุดของอียูสะท้อนให้เห็นถึงคำประกาศของกลุ่มประเทศ จี-7 เมื่อเดือนที่แล้ว ที่ต้องการสนับสนุนโครงการสาธารณูปโภคในประเทศต่าง ๆ ผ่านธนาคารเพื่อการพัฒนาของชาติตะวันตก เพื่อแข่งขันกับการให้เงินกู้ของจีน
และยังถือเป็นการเดินตามความพยายามทางการทูตของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่เร่งเร้าให้พันธมิตรในยุโรปเพิ่มแรงกดดันต่อจีน ทั้งในด้านการบังคับใช้แรงงาน การละเมิดกฎเกณฑ์การค้าโลก ตลอดจนการกดขี่ด้านสิทธิมนุษยชนทั้งต่อชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงและชาวฮ่องกงด้วย
(ที่มา: ข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าวรอยเตอร์ และโพลิติโค)