จีนปรับกลยุทธ์ หันมาใช้พลังงานสะอาดขับเคลื่อน “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง”

FILE: Chinese President Xi Jinping speaks during the opening ceremony of the Belt and Road Forum at the China National Convention Center in Beijing, May 14, 2017.

Your browser doesn’t support HTML5

China BRI 2 Green


รัฐบาลจีนได้ประกาศแผนปรับปรุงใหม่ของโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” หรือ Belt and Road Initiatives (BRI) เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยจะหันมาทุ่นทุนกับแนวทางการใช้พลังงานสะอาดแทนพลังงานจากถ่านหินหรือพลังงานที่ไม่สามารถหมุนเวียนได้

การปรับกลยุทธ์ของ BRI ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จีนใช้เพื่อแสดงจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ปรับแผนการสร้างระบบในประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพื่อรองรับการขยายอำนาจทางเศรษฐกิจของจีน

ทางการจีนได้ชักชวนประเทศพันธมิตรต่างๆ ผ่านการประกาศถึงโครงการ BRI ขั้นที่ 2 นี้โดยขอให้ร่วมมือกับตนเองในการเปลี่ยนการใช้ทรัพยากรพลังงานให้มาเป็นรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อม เช่น พลังงานจากลม พลังงานจากแสงอาทิตย์และพลังงานจากชีวมวลแทน

ทางด้านประธานาธิบดีจีน สี จิ้น ผิง เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ด้วยว่าจีนจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้สูงสุดก่อนปี 2030 และจากนั้นจะลดลงมาเรื่อยๆ

หัวหน้านักนักวิเคราะห์เศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียแปซิกของบริษัท IHS Markit นาย ราจีฟ บิชวอซ บอกกับวีโอเอว่า “นโยบายใหม่ของโครงการ BRI ที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนั้นตรงกับการให้คำมั่นของจีนที่จะพยายามปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็น 0%ในปี 2060 และความพยายามของรัฐบาลที่จะค่อยๆ ปรับให้เศรษฐกิจภายในประเทศให้เป็นไปตามรูปแบบดังกล่าว”

นักวิเคราะห์หลายคนคาดว่าจีนน่าจะเปิดเผยรายละเอียดถึงแผนโครงการ BRI 2 มากขึ้นที่ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก หรือ COP26 ที่จัดขึ้นที่เมืองกลาสโกว์ สกอตแลนด์ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมไปจนถึงวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้

FILE - Steam comes out of chimneys of a coal-fired power station in Niederaussem, Germany, Oct. 24, 2021.

ทั้งนี้ ตามข้อมูลล่าสุดของ IHS Market โครงการ BRI ได้สร้างสถิติถใหม่ด้านการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนเมื่อปีแล้ว โดยมีการลงทุนคิดเป็น 57% จากการลงทุนด้านพลังงานทั้งหมด

สถานบันวิจัยสิ่งแวดล้อมโลกของนครปักกิ่งในประเทศจีนยังได้ระบุด้วยว่า เอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถือเป็นสองพื้นที่หลักที่มีแผนการการใช้พลังงานจากถ่านหินถึง 80% ภายใต้โครงการ BRI อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ หลายประเทศค้านกลับกับจีนว่าต้องการการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศของตนเองมากขึ้น

นายโจนาธาน ฮิลล์แมน ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านเศรษฐกิจของ the Center for International & Strategic Studies (CSIS) ในกรุงวอชิงตันได้บอกกับวีโอเอว่า แม้ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาที่ จีนจะมีสัดส่วนปฏิเสธการพัฒนาโครงการที่ใช้พลังงานถ่านหินมากกกว่าสัดส่วนการอนุมัติโครงการประเภทนี้ แต่ความพยายามที่แท้จริงว่าต้องการจะพัฒนาในรูปแบบไหนต้องมาจากประเทศที่เข้าร่วมโครงการ BRI

ผู้เชี่ยวชาญผู้นี้ยกตัวอย่างกรณีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยกระทรวงการคลังของประเทศบังกลาเทศต้องการใช้ทรัพยากรจากพลังงานที่ไม่สะอาดต่อไป แต่จีนกลับปฏิเสธและเลือกที่จะไม่พิจาณาการลงทุนทำเหมืองถ่านหินหรือสร้างโรงพลังงานไฟฟ้าจากถ่านหินในประเทศดังกล่าวอีก

ต่างกันกับกรณีของกรีซ เคนย่า ปากีสถาน และเซอร์เบียที่แสดงความต้องการต่อจีนชัดเจนว่าไม่ต้องการให้มาลงทุนในโครงการที่จะสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมอีก

และแม้ว่าจีนจะไม่ได้ประกาศอะไรที่แปลกใหม่ก่อนที่ส่งคณะเข้าร่วมประชุม COP26 แต่ทางรัฐบาลปักกิ่งได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของ BRI ในประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะการช่วยเหลือทางการเงินและเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประเทศเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการทำโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บิชวอซจาก IHS Markit ได้เตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่จีนจะกำหนดเป้าหมายการลดความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมให้กับบริษัทที่อยู่ภายใต้ข้อริเริ่ม BRI โดยบริษัทเหล่านี้อาจจะต้องปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้น้อยลงตามที่ทางการจีนต้องการ

อย่างไรก็ตาม กฎข้างต้นอาจจะเป็นเหมือนแนวทางของจีนที่เห็นเมื่อสองปีก่อน ซึ่งจีนตั้งเป้าหมายแบบไม่มีเงื่อนไขผูกพัน

Paneles solares