ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ ซีดีซี กล่าวเมื่อวันพุธว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ โอมิครอน ในสหรัฐฯ แล้วมากกว่า 40 คน ในจำนวนนี้ราว 3 ใน 4 คือผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ผู้ติดเชื้อทุกคนมีอาการเพียงเล็กน้อย
แพทย์หญิงรอเชลล์ วาเลนสกี ผอ.ซีดีซี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพีว่า ทางซีดีซีกำลังเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าเชื้อไวรัสโอมิครอนจะนำไปสู่การระบาดระลอกใหม่ในสหรัฐฯ ได้หรือไม่
แพทย์หญิงวาเลนสกี กล่าวว่า สิ่งที่ทราบตอนนี้คือ ยิ่งเชื้อไวรัสกลายพันธุ์มากเท่าไรก็ยิ่งจำเป็นต้องเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นทางซีดีซีจึงแนะนำให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ทุกคนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์เพื่อเพิ่มระดับภูมิคุ้มกัน
ผอ.ซีดีซี กล่าวด้วยว่า ผู้ที่ได้รับเชื้อโอมิครอนเกือบทุกคนมีอาการเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นอาการไอ คัดจมูกและอ่อนเพลีย มีเพียงรายเดียวที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเชื้อโอมิครอน อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการติดตามเก็บข้อมูลอย่างใกล้ชิดต่อไปเนื่องจากเพิ่งพบผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนนี้
เชื้อไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอนถูกตรวจพบครั้งแรกที่แอฟริกาใต้เมื่อเดือนที่แล้ว จนถึงขณะนี้พบแล้วใน 47 ประเทศ อ้างอิงจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก
ในสหรัฐฯ มีการรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม และจนถึงวันอังคารซีดีซีระบุว่ามีผู้ติดเชื้อโอมิครอนแล้ว 43 คนใน 19 รัฐ ส่วนใหญ่เป็นประชากรวัยผู้ใหญ่ตอนต้น โดย 3 ใน 4 เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ จากจำนวนผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสทั้งหมดในอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบเชื้อโอมิครอนไม่ถึง 1% ที่เหลืออีกกว่า 99% เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของอังกฤษคาดการณ์ว่า เชื้อโอมิครอนอาจกลายเป็นสายพันธุ์หลักในอังกฤษภายในเวลาราวหนึ่งเดือน