Your browser doesn’t support HTML5
ระหว่างการเยือนกรุงลอนดอนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นาย John Bolton ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะให้ความสำคัญกับอังกฤษเป็นลำดับแรกในการทำข้อตกลงการค้าเสรี หลังจากที่อังกฤษพ้นจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปแล้ว
และเมื่อต้นเดือนนี้ นาย Mike Pompeo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ก็กล่าวกับรัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษผู้ไปเยือนกรุงวอชิงตันว่า รัฐบาลสหรัฐมีความพร้อมโดยถือปากกาอยู่ในมือที่จะลงนามในข้อตกลงการค้าเสรีกับอังกฤษหลังจาก Brexit โดยทันทีเช่นกัน
แต่ผู้นำพรรคเดโมแครตในรัฐสภาไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ พร้อมเตือนว่าสภาล่างซึ่งพรรคเดโมแครตคุมเสียงข้างมากอยู่จะไม่พิจารณาข้อตกลงการค้าเสรีใดๆ กับอังกฤษ หากรัฐบาลอังกฤษกลับไปใช้มาตรการคุมเข้มตามแนวพรมแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือซึ่งอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษในขณะนี้ กับประเทศไอร์แลนด์ซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปอีกครั้งหนึ่ง
โดยมาตรการคุมเข้มตามแนวพรมแดนที่มีความยาวเกือบ 500 กิโลเมตรระหว่างไอร์แลนด์เหนือกับประเทศไอร์แลนด์ดังกล่าว เรียกกันว่า Hard Border
ในช่วงที่นายกรัฐมนตรี Teresa May เป็นผู้นำรัฐบาลนั้น อังกฤษได้เจรจาข้อตกลง Brexit กับสหภาพยุโรป โดยส่วนหนึ่งของข้อตกลงดังกล่าวมุ่งจะหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการคุมเข้ม Hard Border ระหว่างไอร์แลนด์เหนือกับประเทศไอร์แลนด์ในช่วงหลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปแล้ว แต่ยังคงร่วมอยู่ในข้อตกลงสหภาพศุลกากรจนกว่าจะมีข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอังกฤษกับสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขข้อตกลงที่ว่านี้ถูกปฏิเสธโดยสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษถึงสามครั้งด้วยกัน และอังกฤษภายใต้ผู้นำคนใหม่ คือนายกรัฐมนตรี Boris Johnson ก็ได้ประกาศว่า อังกฤษพร้อมจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ตุลาคม ไม่ว่าจะมีข้อตกลงใดๆ หรือไม่ก็ตาม
ประเด็นเรื่องความสัมพันธ์และแนวพรมแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือซึ่งอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ กับประเทศไอร์แลนด์ซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปอยู่นั้น นับเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนทั้งในด้านการเมือง การทูต และความมั่นคง
โดยสหรัฐเองก็มีบทบาทเป็นอย่างสูงเมื่อราว 20 ปีที่แล้ว ในการช่วยเป็นคนกลางทำให้มีข้อตกลงสันติภาพที่เรียกกันว่า Good Friday Agreement เพื่อหย่าศึกและทำให้เกิดสันติภาพระหว่างกลุ่มคนที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก กับผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ในไอร์แลนด์เหนือ หลังจากที่ความขัดแย้งซึ่งดำเนินมานานหลายสิบปีทำให้มีทั้งพลเรือนของไอร์แลนด์เหนือและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของอังกฤษต้องเสียชีวิตในไอร์แลนด์เหนือถึงกว่า 3,000 คน
โดยตามข้อตกลงที่ว่านี้ รัฐบาลกรุงลอนดอนได้ยอมยกเลิกการตรวจค้นและการสร้างสิ่งกีดขวางตามแนวพรมแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือกับประเทศไอร์แลนด์ เป็นผลให้ผู้คนในทั้งสองพื้นที่สามารถเดินทางข้ามพรมแดนไปมาได้อย่างสะดวกหรือที่เรียกกันว่า Soft Border
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของรัฐบาลสหรัฐที่มีต่อรัฐบาลกรุงลอนดอนซึ่งต้องการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่พิจารณาประเด็นเรื่อง Soft Border หรือที่เรียกว่ามาตรการ Backstop ดังกล่าว ทำให้เมื่อวันจันทร์วุฒิสมาชิก Charles Schumer ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ออกมากล่าวเตือนฝ่ายบริหารของสหรัฐว่า ไม่ควรให้สัญญาอย่างเกินเลยขอบเขต และโดยไม่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีกับอังกฤษหลังช่วง Brexit เพราะข้อตกลงการค้าเสรีที่สหรัฐทำกับประเทศใดนั้นจะต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้งสองสภาของสหรัฐ
ส่วนส.ส.Nancy Pelosi ผู้นำพรรคเดโมแครตอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ก็ได้ออกคำแถลงเช่นกันว่า ถ้าเงื่อนไขของ Brexit ที่รัฐบาลอังกฤษทำกับสหภาพยุโรปบั่นทอนหรือละเมิดข้อตกลง Good Friday ที่รัฐบาลอังกฤษได้ทำไว้กับไอร์แลนด์เหนือแล้ว ข้อตกลงการค้าเสรีที่รัฐบาลสหรัฐจะเจรจากับรัฐบาลกรุงลอนดอนก็จะไม่มีโอกาสผ่านการพิจารณาของสภา Congress เช่นกัน