นายบอริส จอห์นสัน (Boris Johnson) อดีตนักหนังสือพิมพ์และอดีตนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน มีความใฝ่ฝันทะเยอทะยานอยากจะเป็นผู้นำรัฐบาลอังกฤษมานานแล้ว และเขาก็ก้าวมาถึงจุดสูงสุดของชีวิตทางการเมืองได้สมใจ
เขาได้เสียงสนับสนุนให้เป็นหัวหน้าพรรคจากสมาชิกพรรค Conservative ของอังกฤษกว่า 92,000 เสียงหรือราว 66% เมื่อเทียบกับนาย Jeremy Hunt รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษคนปัจจุบัน ซึ่งเป็นคู่แข่งที่ได้คะแนนสนับสนุนจากสมาชิกพรรคกว่า 46,000 เสียงหรือประมาณ 34%
อย่างไรก็ตาม พรรค Conservative ในขณะนี้เป็นพรรคแกนนำรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ต้องอาศัยความสนับสนุนจากพรรค Democratic Unionist Party ในไอร์แลนด์เหนือ เพื่อให้ได้เสียงข้างมากแบบปริ่มน้ำเพียงสองเสียงในสภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษ
และเสียงข้างมากที่เกินครึ่งเพียงสองเสียงในสภาล่างนี้ก็อาจเปลี่ยนไปได้ถ้าสมาชิกของพรรค Conservative คนหนึ่งถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดในคดีทางเพศ ในการพิจารณาคดีที่กำลังจะมีขึ้น
ปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาลด้านหนึ่งของนาย Boris Johnson ในขณะนี้ ก็คือพรรค Democratic Unionist Party จากไอร์แลนด์เหนือ ที่ร่วมรัฐบาลอยู่ คัดค้านเรื่อง Brexit
นอกจากนั้น นาย Philip Hammond สมาชิกคนสำคัญคนหนึ่งของพรรค Conservative ผู้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลอังกฤษชุดปัจจุบัน ซึ่งกำลังจะพ้นจากตำแหน่งไป ได้ประกาศท่าทีอย่างชัดเจนว่า หากนาย Boris Johnson พยายามจะนำอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลงใดๆ หรือที่เรียกกันว่า Hard Brexit กลุ่มของตนภายในพรรครัฐบาลก็พร้อมจะออกเสียงร่วมกับพรรคแรงงานฝ่ายค้านเพื่อให้รัฐบาลใหม่ของนาย Boris Johnson ต้องล้มลง
และก็จะทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ก่อนกำหนด ซึ่งคาดว่าพรรค Conservative มีโอกาสน้อยที่จะได้รับชัยชนะ
ขณะนี้ ส.ส.ของพรรค Conservative ซึ่งเป็นรัฐบาลอยู่ มีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนการอยู่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปต่อไป และฝ่ายที่ต้องการให้อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยสิ้นเชิง ดังนั้นจึงคาดได้ว่า นาย Boris Johnson นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนต่อไป จะต้องพบกับปัญหาท้าทายในลักษณะเดียวกับที่นาง Teresa May เคยพบอยู่
โดยนายกรัฐมนตรี Teresa May เคยเตือนว่า ผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งผู้นำพรรคและหัวหน้ารัฐบาลต่อจากตนนั้น จะต้องพบกับความขัดแย้งและปัญหาชะงักงันทางการเมืองเช่นเดียวกัน เพราะไม่มีฝ่ายใดซึ่งพอใจกับข้อตกลง Brexit ที่นายกรัฐมนตรี Teresa May เจรจากับผู้นำสหภาพยุโรป
นอกจากนั้น ผู้นำสภาพยุโรปเองก็เตือนว่า พวกตนจะไม่ยอมถอยหลังเพื่อทำตามความประสงค์ของนาย Boris Johnson และย้ำว่าข้อตกลง Brexit ซึ่งสหภาพยุโรปเจรจาทำความตกลงกับนาง Teresa May นั้นเป็นข้อตกลงท้ายสุดและดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว
นอกจากปัญหาความแตกแยกภายในพรรคร่วมรัฐบาลเองแล้ว นาย Jeremy Corbyn หัวหน้าพรรคแรงงานฝ่ายค้านของอังกฤษ ยังได้โจมตีด้วยว่า นาย Boris Johnson เป็นผู้นำรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมซึ่งให้สัญญาว่าจะลดภาษีสำหรับคนรวย และทำตนเป็นเพื่อนสนิทกับนายธนาคารใหญ่ รวมทั้งพยายามสร้างความเสียหายด้วยการผลักดัน No Deal Brexit ซึ่งหมายถึงการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลงใดๆ
เรื่องเหล่านี้ล้วนแต่จะทำให้นาย Boris Johnson ไม่ได้รับความสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
จากปัญหาที่รุมเร้าหลายด้าน ทั้งในเรื่อง Brexit รวมทั้งการแก้ปัญหาความขัดแย้งกับอิหร่านในขณะนี้ ทำให้นักวิเคราะห์การเมืองให้ความเห็นว่า ช่วงเวลาฮันนีมูนของนาย Boris Johnson จะค่อนข้างสั้น และเขาจะต้องรักษาการทรงตัวเหมือนกับเดินอยู่บนคมมีดเลยทีเดียว
ซึ่งหากเกิดพลาดพลั้งในเรื่องใดไป เขาก็อาจจะถูกจารึกชื่ออยู่ในประวัติศาสตร์การเมืองของอังกฤษ ในฐานะผู้นำรัฐบาลที่อยู่ในตำแหน่งสั้นที่สุดได้