ค่าเงินปอนด์อังกฤษร่วงกว่า 1% ในวันจันทร์ ลงไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 28 เดือน กละงจากบรรดานักลงทุนเกิดความกังวลเรื่องความเสี่ยงที่อังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีข้อตกลงใดๆ ล่วงหน้า หรือ No-Deal Brexit ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นายบอริส จอห์นสัน
ตลอดจนความกังวลว่านายจอห์นสันอาจตัดสินใจให้มีการเลือกตั้งใหม่เร็วขึ้นกว่าเดิม
ค่าเงินปอนด์ร่วงดิ่งลงในรอบกว่า 2 ปี
ในช่วงบ่ายวันจันทร์ตามเวลาที่อังกฤษ ค่าเงินปอนด์ร่วงลงไป 1.1% อยู่ที่ระดับ 1.22 ดอลลาร์ และระดับ 90.8 เซนต์ เมื่อเทียบกับเงินยูโร หลังจากที่นายกฯ จอห์นสัน กล่าวว่า ตนจะนำอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ โดยไม่สนว่าจะมีหรือไม่มีข้อตกลงกับอียู
และหากนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เงินปอนด์ได้มีค่าลดลงไปแล้วถึง 7% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่าเป็นการตอบสนองของบรรดานักลงทุนว่าไม่ต้องการให้อังกฤษแยกตัวจากอียูโดยไม่มีการจัดทำข้อตกลง
โดยนักลงทุนเกรงว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยหลังจากแยกตัวออกจากอียู
ด้านรัฐบาลอังกฤษ ระบุในวันจันทร์ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่มีข้อตกลงใดๆ ก่อนวันที่ 31 ตุลาคม เนื่องจากความดื้อดึงของสหภาพยุโรปที่ไม่ต้องการเจรจาต่อรองใดๆ อีก ซึ่งขณะนี้รัฐบาลอังกฤษได้พยายามเตรียมความพร้อมที่จะแยกตัวจากอียูก่อนกำหนดเส้นตายดังกล่าวแล้ว
เตรียมจัดเลือกตั้งใหม่เร็วขึ้น
นอกจากประเด็นเรื่อง Brexit แล้ว ยังมีความกังวลว่านายจอห์นสันอาจจัดการเลือกตั้งใหม่เร็วขึ้นกว่าเดิม หลังจากที่พรรคอนุรักษ์นิยมที่เขาเป็นหัวหน้าพรรคกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่ประชาชน
การสำรวจของ YouGov ระบุว่า ขณะนี้พรรคอนุรักษ์นิยมได้รับเสียงสนับสนุน 31% มากกว่าพรรคแรงงานอยู่ค่อนข้างมาก
ซึ่งหากชนะการเลือกตั้ง นายจอห์นสันจะสามารถเอาชนะพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้เกิดการแยกตัวออกจากอียูโดยไม่มีข้อตกลงได้อย่างสมบูรณ์
ค่าเงินปอนด์อาจร่วงลงอีกในระยะยาว
นักวิเคราะห์การลงทุนของ ING คาดว่า ด้วยประเด็นเรื่องเบร็กซิตและการจัดเลือกตั้งใหม่ อาจกดดันให้ค่าเงินปอนด์อยู่ต่ำกว่าระดับ 1.20 ดอลลาร์ ไปอีกหลายเดือน
ขณะเดียวกัน ธนาคารแห่งชาติของอังกฤษ ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม รวมทั้งอาจมีการใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบรัดกุมเพื่อควบคุมความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นหลังการแยกตัวจากอียูด้วย