รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวในวันจันทร์ในการเปิดการประชุม Global Coalition to Defeat ISIS ที่อิตาลี กระตุ้นให้ประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ มุ่งเน้นที่การปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอซิส อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาของกลุ่มไอซิสในแอฟริกา
รมต.บลิงเคน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเกิดความก้าวหน้าในการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลามเพราะประเทศต่าง ๆ ร่วมมือกัน และหวังว่าจะมีการจับมือกันต่อสู้กับไอซิสต่อไปเพื่อให้ปราบปรามกลุ่มนี้ได้อย่างเด็ดขาด
รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนั้นรวมถึงการยับยั้งไม่ให้นักรบต่างชาติสามารถเดินทางเข้าไปในอิรักและซีเรีย และว่า จนถึงขณะนี้กองกำลังเพื่อประชาธิปไตยซีเรียได้จับกุมสมาชิกกลุ่มไอซิสไปแล้วราว 10,000 คน
นอกจากนี้ รมต.บลิงเคนยังประกาศมอบเงินบริจาคเพื่อมนุษยธรรม จำนวน 436 ล้านดอลลาร์ ให้แก่ชาวซีเรียและชุมชนต่าง ๆ ที่ต้อนรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียด้วย
สหรัฐฯ จัดตั้งกลุ่มพันธมิตรเพื่อต่อสู้กับกลุ่มไอซิสเมื่อปี ค.ศ.2014 โดยมีสมาชิก 83 ประเทศ และเมื่อปี ค.ศ. 2019 ได้มีการประกาศชัยชนะเหนือกลุ่มไอซิสในอิรักและทางเหนือของซีเรีย
ในวันจันทร์เช่นกัน รมต.บลิงเคน ได้พบหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี ลุยจิ เดอ ไมโอ เพื่อหารือเรื่องการยุติความขัดแย้งในซีเรียซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2011 รวมถึงการเจรจาเพื่อหาทางจัดทำข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ สามารถเข้าถึงประชาชนผู้เดือดร้อนในบริเวณพื้นที่ความขัดแย้งได้
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีบลิงเคนเดินทางเข้าเฝ้าพระสันตะปาปาฟรานซิส ที่นครวาติกัน เพื่อหารือเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ สิทธิมนุษยชน และปัญหาการลักลอบค้ามนุษย์ ก่อนที่พระสันตะปาปาฟรานซิสจะทรงพบหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตามกำหนดการที่วางไว้ในเดือนตุลาคมนี้