แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้กรุงปักกิ่งดำเนินการให้กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่มีผลต่อชาวอเมริกันและธุรกิจของอเมริกันที่ใช้ชีวิตและทำงานในจีนมีความเท่าเทียมและเป็นธรรม
หลังเสร็จสิ้นการพบปะกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนในนครเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของประเทศและที่ตั้งของบริษัทอเมริกันกว่า 1,000 แห่ง บลิงเคนเดินทางต่อไปยังกรุงปักกิ่งทันทีในวันพฤหัสบดี
แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในระหว่างการหารือกับ เฉิน จี๋หนิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เซี่ยงไฮ้นั้น บลิงเคนได้ใช้เวลาพูดคุยเกี่ยวกับการทำให้มั่นใจว่า บริษัทอเมริกันทั้งหลายจะได้รับการปฏิบัติต่อจากทางการจีนอย่างเป็นธรรม
มิลเลอร์กล่าวว่า “ในการแลกเปลี่ยนหารืออย่างสร้างสรรค์และตรงไปตรงมา รัฐมนตรี(ต่างประเทศสหรัฐฯ) ได้ยกประเด็นความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสาธารณรัฐประชาชนจีนและแนวทางปฏิบัติทางเศรษฐกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับด้านการตลาด และได้เน้นย้ำว่า สหรัฐฯ สนใจในการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่สมน้ำสมเนื้อกับจีน และโอกาสที่เท่าเทียมกันสำหรับพนักงานและบริษัทของสหรัฐฯ ในจีน”
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า (รัฐบาล)กรุงปักกิ่ง “ดำเนินงานด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าตามหลักการของตลาดเสมอมา”
SEE ALSO: บลิงเคนเยือนจีน สานสัมพันธ์ปักกิ่ง ท่ามกลางความเห็นต่าง
ทั้งนี้ ประเด็นการได้ดุลการค้ามูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์และคำกล่าวหาเกี่ยวกับการขโมยทรัพย์สินทางปัญญารวมทั้งประเด็นอื่น ๆ ที่ถูกมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติของจีนต่อธุรกิจอเมริกัน คือ ปมแห่งความไม่ลงรอยกันระหว่างสองมหาอำนาจมานานแล้ว
และในการพบปะกับนักศึกษาจีนและอเมริกันจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กในนครเซี่ยงไฮ้ บลิงเคนได้พูดย้ำเกี่ยวกับความสำคัญของการขยายการแลกเปลี่ยนในด้านต่าง ๆ ของนักศึกษา นักวิชาการและธุรกิจของสองประเทศ โดยระบุว่า “เราต้องทำให้แน่ใจว่า เรามีการพูดคุยกัน ได้ยินกันและกัน เข้าใจกันและกัน”
ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า นักศึกษาของมหาวิทยาลัยนิวยอร์กในเซี่ยงไฮ้นั้นมีจำนวนเกือบ 2,000 คนโดยเป็นทั้งนักศึกษาในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท โดยราวครึ่งหนึ่งเป็นชาวจีนและมีประมาณ 500 คนมาจากสหรัฐฯ ส่วนที่เหลือประกอบด้วยนักศึกษาจากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก
และในวันพฤหัสบดีเช่นกัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ได้พบกับผู้นำภาคธุรกิจจากหอการค้าอเมริกันในเซี่ยงไฮ้และพูดคุยเกี่ยวกับวิธีแก้ไขปัญหาด้านการค้าต่าง ๆ ที่ค้างคาระหว่างสองประเทศ
ขณะที่ กรุงวอชิงตันและกรุงปักกิ่งยังคงเห็นต่างอย่างมากในหลายเรื่องอยู่ บลิงเคนตัดสินใจเยือนจีนอีกครั้งในสัปดาห์นี้ด้วยเป้าหมายมุ่งเน้นที่จะมีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับจีนเพื่อแก้ไขปัญหาหลัก ๆ ที่กระทบประชาชนของทั้งสองประเทศและของทั่วโลก
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเยือนจีนของบลิงเคนจะเป็นช่วงที่มีการหยิบยกประเด็นโต้แย้งต่าง ๆ มากมายขึ้นมาพูดคุย พร้อม ๆ กับการรักษาพลวัตของยุทธวิธีการสร้างบรรยากาศระหว่างสองประเทศให้อบอุ่นไว้ (tactical thaw) หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดนและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้หารือซึ่งหน้าไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว
อาลี วีน นักวิจัยอาวุโสและที่ปรึกษาของ International Crisis Group ให้ความเห็นกับ วีโอเอ ภาคภาษาจีนกลาง ทางอีเมลที่ระบุว่า “ความสัมพันธ์(สหรัฐฯ-จีน)ยังเดินหน้าขยายตัวในแบบที่มีการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ทางด้านการทหาร เทคโนโลยีและการทูต แต่การขยายตัวนี้ก็เป็นไปในแบบที่พอจะคาดการณ์และควบคุมได้กว่าเมื่อปีก่อน เนื่องจากทั้งสองประเทศยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินการทางการทูตชั้นสูงอยู่”
ส่วน เดนนิส วิลเดอร์ นักวิชาการอาวุโสของ Initiative for U.S.-China Dialogue on Global Issues แห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ บอกกับ วีโอเอ ภาคภาษาจีนกลาง ด้วยว่า ตนนั้นยังคง “มองโลกในแง่ร้ายอยู่อย่างมาก ๆ เกี่ยวกับการเยือนครั้งนี้ ... สี จิ้นผิง มุ่งมั่นที่จะช่วยเพื่อนสนิทของตน (ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์) ปูติน) และจะไม่ยอมตอบรับคำร้องขอใด ๆ ของอเมริกาเลย”
รายงานข่าวระบุว่า บลิงเคนมีกำหนดพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่กรุงปักกิ่งในช่วงบ่ายวันศุกร์ ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า บลิงเคนจะมีแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่งก่อนเดินทางกลับกรุงวอชิงตันด้วย
- ที่มา: วีโอเอ