เมื่อวันพุธ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางถึงออสเตรเลียเพื่อเน้นย้ำว่า สหรัฐฯ ให้ความสำคัญต่อภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและอินโดแปซิฟิก ในขณะที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญกับวิกฤตยูเครน
นายบลิงเคนมีกำหนดการพบรัฐมนตรีจากภาคีสี่ประเทศ หรือ The Quad ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอินเดีย ก่อนที่จะเดินทางเยือนฟิจิและรัฐฮาวายต่อไปในช่วงสุดสัปดาห์
มาริส เพย์น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพการประชุมดังกล่าว ระบุเมื่อวันพุธว่า การประชุมนี้ส่งสาส์นถึงจีนว่า สหรัฐฯ ยังคงให้ความสำคัญต่อประเด็นความมั่นคงในภูมิภาคนี้เป็นลำดับต้นๆ
รมต.เพย์น ยังกล่าวด้วยว่า การประชุมระดับรัฐมนตรีนี้จะมุ่งเน้นไปที่การกระจายวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ในภูมิภาค ประเด็นไซเบอร์และเทคโนโลยี การรับมือข้อมูลเท็จ การรับมือการก่อการร้าย และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศด้วย
รมต. ต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธว่า การทำงานของกลุ่มภาคีสี่ประเทศนี้ สอดคล้องกับความพยายามที่สหรัฐฯ สนับสนุนในภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก โดยเขากล่าวว่า การรวมตัวกันของประเทศที่มีจุดแข็งต่างกันจะช่วยให้รับมือกับประเด็นที่เป็นที่สนใจร่วมกันได้ เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โรคโควิด-19 และเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นต้น
การเดินทางเยือนออสเตรเลียของนายบลิงเคนครั้งนี้ เป็นการเยือนออสเตรเลียครั้งแรกของเขานับตั้งแต่มีการประกาศข้อตกลงหุ้นส่วนด้านความมั่นคงสามฝ่ายระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย หรือ AUKUS เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมถึงการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ให้ออสเตรเลีย เพื่อรับมือกับการขยายอำนาจทางการทหารของจีนทั่วภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
นายแดเนียล คริเทนบริง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กล่าวกับวีโอเอว่า การหารือของรัฐมนตรีกลุ่มภาคีสี่ประเทศครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับความท้าทายจากจีน
ในประเด็นนี้ ชาร์ลส์ อีเดล หัวหน้าด้านออสเตรเลียของศูนย์ Center for Strategic and International Studies ระบุว่า แม้กลุ่มภาคีนี้จะไม่ได้เป็นพันธมิตรด้านทางทหาร แต่ก็เป็นกลุ่มประเทศประชาธิปไตยที่ต่างมีศักยภาพทางทหารสูง มีกองกำลังทางทะเล และต่างกังวลถึงท่าทีของจีนต่อประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้ นายบลิงเคนยังมีกำหนดการหารือถึงภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นหลังรัสเซียกับจีนกระชับความสัมพันธ์มากขึ้น โดยผู้นำทั้งสองประเทศพบปะกันในวันเปิดพิธีการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่ง และยังมีขึ้นในช่วงที่รัสเซียเพิ่มกองกำลังตามชายแดนยูเครน และจีนเพิ่มท่าทีในการรวมไต้หวันเข้ากับแผ่นดินใหญ่ด้วย
ทางด้านนายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมาตอบโต้ว่า สหรัฐฯ มีประชาธิปไตยในประเทศที่ล้มเหลว แต่กลับบังคับให้ประเทศอื่นยอมรับมาตรฐานประชาธิปไตยของตน
เขายังย้ำว่า จีนต้องการแสวงหาสันติภาพและการพัฒนา สนับสนุนความร่วมมือ สนับสนุนการสร้างระบบความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เท่าเทียม เปิดกว้าง และทุกฝ่ายมีส่วนร่วม โดยไม่พุ่งเป้าไปที่ประเทศที่สาม และไม่เห็นด้วยกับการสร้าง “กลุ่มย่อยในกลุ่มใหญ่” และการเผชิญหน้าของแต่ละฝ่าย
- รายงานโดย ผู้สื่อข่าววีโอเอ Nike Ching