ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เตือนถึงสงครามเต็มรูปแบบที่จะเกิดขึ้นในเลบานอน และว่าถึงเวลาแล้วที่จะยุติความขัดแย้งในกาซ่า ระหว่างการขึ้นกล่าวในเวทีสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อวันอังคาร
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ขึ้นกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ UNGA ครั้งที่ 79 ที่อาคารสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก เมื่อวันอังคารเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มเฮซบอลลาห์ว่าการแก้ปัญหาด้วยวิถีการทูตยังมีความเป็นไปได้ในวิกฤตนี้
ไบเดน กล่าวว่า “สงครามเต็มรูปแบบไม่เกิดประโยชน์กับฝ่ายใด แม้ว่าสถานการณ์จะยกระดับขึ้น แนวทางแก้ปัญหาด้วยการทูตยังคงเกิดขึ้นได้ อันที่จริงแล้ว สิ่งนี้ยังเป็นหนทางเดียวในเรื่องความมั่นคงอย่างยั่งยืน เพื่อเปิดทางให้ประชาชนจากทั้งสองประเทศกลับสู่บ้านของพวกเขาบริเวณพรมแดนได้อย่างปลอดภัย และนั่นคือสิ่งที่เราทำงานอย่างหนักเพื่อให้บรรลุผล”
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวในช่วงเวลาที่สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสใกล้เข้าสู่วาระครบ 1 ปี ไบเดนเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสรุปเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิงและการปล่อยตัวประกัน ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ได้รับการสนับสนุนจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
ส่วนประเด็นของสงครามที่รัสเซียรุกรานยูเครนมากว่า 2 ปีนั้น ไบเดนได้กล่าวว่า “เราจะยังคงการสนับสนุนในการช่วยเหลือยูเครนชนะสงครามนี้และรักษาเอกราชไว้หรือเปล่า? หรือจะเลือกเดินจากไป และปล่อยให้ผู้รุกรานกลับมาและประเทศชาติล่มสลายไป? ผมรู้คำตอบของผมแล้ว เราไม่อาจย่อท้อ เราไม่อาจมองข้ามไปได้ และเราจะต้องไม่ละทิ้งการสนับสนุนของเราต่อยูเครน ไม่จนกว่ายูเครนจะได้รับสันติภาพอย่างยุติธรรมและยั่งยืนภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ”
และในวันอังคาร อันโตนิโอ กูเทอเรซ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวในเวที UNGA เรียกร้องสันติภาพในยูเครนและได้เตือนถึงแนวโน้มที่สร้างความเสียหายไปทั่วโลก
กูเทอเรซ กล่าวว่า “เราได้เห็นยุคแห่งการลอยนวลพ้นผิดไปทุกที่ในตะวันออกกลาง ใจกลางยุโรป ในแอฟริกาและที่อื่น ๆ สงครามในยูเครนได้แผ่ขยายไปโดยไม่มีสัญญาณว่าจะยุติ ผู้บริสุทธิ์ต้องเป็นฝ่ายชดใช้กับการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นและชีวิตความเป็นอยู่ที่แหลกสลาย ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเกิดสันติภาพอย่างยุติธรรมตามกฎบัตรสหประชาชาติ ตามกฎหมายระหว่างประเทศและตามมติสหประชาชาติ ขณะเดียวกัน กาซ่ายังคงเป็นฝันร้ายที่คุกคามไปทั้งภูมิภาค มองไปไม่ไกลอย่างที่เลบานอน เราควรต้องตระหนกกับการยกระดับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้แล้ว”
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า ประเด็นในตะวันออกกลางยังคงเป็นเรื่องที่อ่อนไหวในเวลานี้
จิม เคสเลอร์ จากสถาบันคลังสมองในกรุงวอชิงตัน Third Way ให้ทัศนะกับวีโอเอว่า “สำหรับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนว่า คุณจะปิดเรื่องนี้ไว้และหวังให้ความขัดแย้งไม่ขยายวงกว้างเกินควบคุมจนกลายเป็นสงครามในภูมิภาคได้อย่างไร?” และว่า “นั่นคือสิ่งที่คนคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น”
สิ่งหนึ่งที่ชัดเจน คือ สงครามอิสราเอล-ฮามาส จะเดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 1 ของความขัดแย้งรอบใหม่ และตัวประกันเกือบ 100 ชีวิตยังอยู่ในการควบคุมของฮามาส ขณะที่ทำเนียบขาวกล่าวว่าการนำตัวประกันทั้งหมดกลับบ้านเป็นภารกิจสำคัญอันดับต้น ๆ แต่เวลาล่วงเลยมาหลายเดือนแล้วการเจรจาหยุดยิงยังไม่บรรลุผล
แม้ว่าประเด็นความขัดแย้งในตะวันออกกลางและยูเครนยังคงปกคลุมเวทีประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ UNGA ครั้งที่ 79 ในวันแรก แต่เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ ยังได้เน้นถึงประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศผิดธรรมชาติ สิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมทางเพศ ความท้าทายด้านการพัฒนาต่าง ๆ และการปฏิรูปสถาบันระหว่างประเทศที่มีความล้าหลัง ซึ่งรวมถึงสหประชาชาติเองด้วย
- ที่มา: วีโอเอ