สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายวิลเลียม เบินส์ ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ หรือ CIA คนใหม่ ได้ตอบคำถามต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาในวันพุธ ยืนยันว่าจีนคือภัยคุกคามสำคัญต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ
นายเบินส์ อดีตนักการทูตวัย 64 ปี ได้รับการคาดหมายว่าจะผ่านการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐฯ ให้นั่งในตำแหน่งผอ.ซีไอเอ ได้อย่างไม่มีปัญหา โดยก่อนหน้านี้เขาเคยผ่านการรับรองให้นั่งในตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำรัสเซียและจอร์แดน รวมทั้งตำแหน่งระดับสูงในกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มาแล้วสามครั้ง
หากได้รับการยืนยันจากวุฒิสภา วิลเลียม เบินส์ จะเป็นนักการทูตคนแรกที่ได้นั่งในตำแหน่งนี้ โดยเขาคือผู้มีส่วนสำคัญในการจัดทำสนธิสัญญาด้านนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับประเทศผู้นำโลกเมื่อปี ค.ศ. 2015 ก่อนที่รัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะยกเลิกสัญญาดังกล่าว
ว่าที่ผอ.ซีไอเอ คนใหม่ กล่าวต่อคณะกรรมาธิการข่าวกรองของวุฒิสภาว่า ภารกิจหลักของตนมี 4 ประการ คือ "ประชาชน - ความร่วมมือ - เทคโนโลยี - จีน" โดยการเอาชนะจีนถือเป็นความสำคัญยิ่งยวดต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ
นายเบินส์ เรียกจีนว่าเป็น "ศัตรูที่รวบอำนาจเบ็ดเสร็จและน่าสะพรึงกลัว" ที่พยายามเพิ่มความสามารถในการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา กดขี่ประชาชน รวมทั้งแผ่ขยายอิทธิพลมายังสหรัฐฯ
นอกจากภัยคุกคามจากจีนแล้ว เบินส์ยังระบุถึงภัยคุกคามจากรัสเซีย เกาหลีเหนือ และอิหร่าน ตลอดจนความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก สาธารณสุข และภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวมทั้งการที่ผู้นำที่กระหายและเต็มไปด้วยความเป็นปรปักษ์ของจีนพยายามทดสอบกำลังกับสหรัฐฯ เพื่อแย่งชิงความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์การเมืองโลก
จนถึงขณะนี้ ประธานาธิบดีไบเดนสามารถแต่งตั้งคณะทำงานด้านความมั่นคงแห่งชาติได้เกือบครบทุกตำแหน่งแล้ว รวมถึงรัฐมนตรีต่างประเทศ แอนโทนี บลิงเคน, รัฐมนตรีกลาโหม ลอยด์ ออสติน และผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ เอวริล เฮนส์ ซึ่งล้วนผ่านการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐฯ แล้ว