จีนเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่ของตนในกิจการความมั่นคงของมาเก๊า 

In this photo released by Xinhua News Agency, policemen perform a flag-raising ceremony in Macao, Dec. 20, 2021, marking the 22nd anniversary of the former Portuguese colony's handover to Chinese rule.

จีนเพิ่มอำนาจให้เจ้าหน้าที่ตัวแทนของตนในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า แม้ว่าจีนจะเคยให้คำมั่นมายาวนานว่ามาเก๊าจะมีอำนาจปกครองตนเองได้ในระดับสูง

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานของมาเก๊า ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จีนแผ่นดินใหญ่แต่งตั้ง จะดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกรรมการพิทักษ์ความมั่นคงแห่งชาติของเขตบริหารพิเศษมาเก๊าด้วยเช่นกัน

รายงานดังกล่าวระบุว่า ฟู่ จี้ ยิ่ง ผู้อำนวยการประสานงานมาเก๊าคนปัจจุบัน จะทำหน้าที่ทั้งเป็นที่ปรึกษา ชี้แนะ ประสานงาน และสนับสนุนมาเก๊าในด้าน “การพิทักษ์ความมั่นคง” โดยคณะกรรมการดังกล่าวจะมีที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติคนใหม่อีกสามคน

สำนักข่าวซินหัวระบุว่า โฮ ยัตเส่ง ผู้บริหารสูงสุดมาเก๊า เป็นผู้เสนอการแต่งตั้งดังกล่าว ขณะที่มาเก๊ากำลังปรับกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการใช้กฎหมายนี้เมื่อปีค.ศ. 2009

กฎหมายฉบับดังกล่าว กำหนดบทลงโทษต่อการกบฎ การแบ่งแยกดินแดน การก่อความไม่สงบ การบ่อนทำลาย การจารกรรมความลับของรัฐ และกิจกรรมทางการเมืองขององค์กรต่างชาติในมาเก๊า โดยผู้ฝ่าฝืนอาจถูกจำคุกอย่างสูงถึง 25 ปี

ทั้งนี้ มาเก๊าถูกมองว่าโอนอ่อนต่อจีนมากกว่าฮ่องกง โดยมีสมาชิกสภาสายประชาธิปไตยเพียงสามคนจากทั้งหมด 33 คน ทั้งฮ่องกงและมาเก๊ามีการบริหารภายใต้หลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” เพื่อรับประกันว่า เมืองทั้งสองจะมีอำนาจปกครองตนเองในระดับสูง

ทั้งนี้ รัฐบาลมาเก๊าอ้างว่า สถานการณ์และความท้าทายใหม่ๆ ต่อการปกป้องความมั่นคงแห่งชาติ เป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องมีการปรับกฎหมายดังกล่าว

คำกล่าวดังกล่าวสอดคล้องกับการแถลงนโยบายประจำปีหน้าของนายโฮ ที่ระบุว่า จะ “เสริมสร้างพื้นฐานการปกครองมาเก๊าโดยกลุ่มผู้รักชาติ” และ “ปรับปรุงกฎหมายและสถาบันที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนหลักการดังกล่าว”

Macao China

การแถลงของนายโฮสอดคล้องกับการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายน ที่รัฐบาลมาเก๊าตัดสิทธิ์ผู้สมัครสายประชาธิปไตยหลายสิบคนในช่วงสองเดือนก่อนการเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลว่า ผู้สมัครดังกล่าวไม่ยึดถือตามกฎหมายพื้นฐานหรือไม่ได้ให้คำสัตย์ปฏิญาณแสดงความภักดีต่อมาเก๊า

ทั้งนี้ การเลือกตั้งครั้งดังกล่าวมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อยที่สุด นับตั้งแต่โปรตุเกสส่งคืนมาเก๊าให้จีนเมื่อปีค.ศ. 1999 การเลือกตั้งครั้งนี้ยังมีผู้กาช่องไม่ลงคะแนนเสียงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ด้วย

หว่อง เสี่ยว ชัก รัฐมนตรีด้านความมั่นคงของมาเก๊า ระบุว่า กฎหมายความมั่นคงของฮ่องกงที่บังคับใช้เมื่อปีที่แล้ว เป็นกฎหมายอ้างอิงสำคัญของมาเก๊า โดยกฎหมายฉบับดังกล่าวของฮ่องกง สืบเนื่องมาจากการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย และมีผู้ถูกจับกุมภายใต้กฎหมายดังกล่าวกว่า 100 คน รวมถึงนักการเมืองฝ่ายค้านและนักศึกษา

กฎหมายของมาเก๊าฉบับนี้ครอบคลุมความผิดต่างๆ มากกว่ากฎหมายของฮ่องกง โดยรัฐบาลมาเก๊าเห็นว่า กฎหมายของฮ่องกงประสบความสำเร็จ

ร่างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับปรับปรุงของมาเก๊า อาจรวมถึงการจำกัดกิจกรรมออนไลน์มากขึ้น โดยสำนักข่าวมาเก๊า นิวส์ รายงานคำพูดของนายหว่อง ที่ระบุว่า “ประสบการณ์ในฮ่องกงได้แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมออนไลน์ที่ไม่มีความรุนแรงก็สามารถเป็นอันตรายต่อความมั่นคงแห่งชาติได้”

ซอนนี โหล นักวิเคราะห์การเมือง ระบุว่า อาจมีการจับกุมในมาเก๊าน้อยกว่าในฮ่องกงภายใต้กฎหมายฉบับใหม่นี้ เนื่องจากภาคประชาสังคมในมาเก๊านั้นเคลื่อนไหวน้อยกว่าในฮ่องกง เพราะชาวมาเก๊าส่วนใหญ่เกิดในจีนแผ่นดินใหญ่ และยังมีผู้อพยพอาศัยในมาเก๊าจำนวนมาก

นักวิเคราะห์ผู้นี้ยังระบุด้วยว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการครั้งนี้มีความสำคัญต่อการปกป้องความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย