รัฐบาลออสเตรเลียเปิดเผยในวันอาทิตย์ว่า ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตออสเตรเลียในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครนทำการอพยพออกนอกเมืองหลวงของประเทศนี้แล้ว หลังสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนยูเครนและรัสเซียยกระดับรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
รายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่อ้างข้อมูลจากแถลงการณ์ของ มาริส เพย์น รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สถานทูตออสเตรเลียในยูเครนได้รับคำสั่งให้อพยพไปปฏิบัติงานที่สำนักงานชั่วคราวในเมืองลวิฟ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศและห่างจากพรมแดนที่ติดกับโปแลนด์ราว 70 กิโลเมตร โดยแถลงการณ์นี้ยังระบุด้วยว่า รัฐบาลกรุงแคนเบอร์ราได้แนะนำให้ชาวออสเตรเลียนเดินทางออกจากยูเครนโดยระบบขนส่งคมนาคมพาณิชย์ทันทีด้วย
นอกจากนั้น รัฐบาลออสเตรเลียยังเรียกร้องให้รัฐบาลจีนออกหน้ามาพูดแทนยูเครน หลังกรุงปักกิ่งวิพากษ์วิจารณ์การประชุมระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอินเดีย ที่จัดขึ้นที่นครเมลเบิร์นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน กล่าวระหว่างการร่วมงานแถลงข่าวว่า รัฐบาลจีนดูมีความสุขที่ได้ออกมาวิจารณ์ออสเตรเลีย แต่กลับทำนิ่งเงียบไม่เดือดร้อนเกี่ยวกับกรณีที่กองทัพรัสเซียสั่งสมกำลังตามแนวชายแดนที่ติดกับยูเครน พร้อมย้ำว่า “พันธมิตรเผด็จการที่ทุกคนเห็นกันอยู่นี้ ที่เดินหน้าหาทางข่มเหงรังแกประเทศอื่นๆ ไม่ใช่สิ่งที่ออสเตรเลียจะยอมนิ่งเฉยดูดายได้เลย”
มีรายงานข่าวด้วยว่า สหรัฐฯ ได้เตรียมการให้เจ้าหน้าที่การทูตของตน ในกรุงเคียฟ ย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่เมืองลวิฟ อยู่ เช่นเดียวกับ แคนาดาที่เดินหน้าแผนงานแบบเดียวกันนี้
- ที่มา: รอยเตอร์