รัฐบาลกรุงปักกิ่งยื่นเรื่องร้องฟ้ององค์การการค้าโลก (WTO) กรณีที่ออสเตรเลียดำเนินมาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดสำหรับสินค้าหลายรายการจากจีน และการเผชิญหน้าระหว่างสองประเทศในครั้งนี้บ่งชี้ถึงการยกระดับความตึงเครียดของความสัมพันธ์ของทั้งสองคู่ค้านี้
ในคำฟ้องที่จีนยื่นต่อให้ WTO นั้น รัฐบาลกรุงปักกิ่งระบุถึงผลกระทบต่อสินค้ากลุ่ม ล้อรถไฟ ใบพัดกังหันลม และอ่างชำระล้างที่ทำจากสแตนเลสสตีล หลังรัฐบาลกรุงแคนเบอร์รายื่นฟ้ององค์การการค้าโลกเมื่อสัปดาห์ก่อน เกี่ยวกับการที่จีนสั่ง่ขึ้นอัตราภาษีนำเข้าไวน์ของออสเตรเลีย
เกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวระหว่างการแถลงข่าวในวันพฤหัสบดีว่า การเดินหน้ายื่นฟ้องครั้งนี้มีจุดประสงค์ที่จะ “ป้องกันสิทธิ์และผลประโยชน์ตามกฎหมายของบริษัทจีน” พร้อมระบุว่า รัฐบาลจีนหวังว่าออสเตรเลียจะดำเนินการที่เป็นรูปธรรม เพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของตน รวมทั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงข้อบิดเบือนใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าทั้งหลาย และกลับมาดำเนินกิจกรรมการค้าในรูปแบบปกติโดยเร็วที่สุด
ขณะเดียวกัน แดน เทฮาน รัฐมนตรีการค้าออสเตรเลีย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลกรุงแคนเบอร์ราจะต่อสู้เพื่อคงมาตรการภาษีสำหรับล้อรถไฟและใบพัดกังหันลมจากจีน ที่มีการเรียกเก็บมาตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2019 ไว้ให้ได้ และย้ำว่า ออสเตรเลียนั้นต้องการที่จะสร้าง “การมีปฏิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์กับรัฐบาลจีน” ให้ได้ แต่มาตรการภาษีที่กลายมาเป็นประเด็นครั้งนี้ ถูกประกาศใช้หลังได้รับการวิเคราะห์มาอย่างดีถี่ถ้วนแล้ว
เทฮาน ยังตั้งคำถามว่า “ทำไมจีนถึงเพิ่งออกมาฟ้องร้อง” และแนะให้สื่อไปสอบถามหาความกระจ่างจากจีนดู
ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างออสเตรเลียและจีนตึงเครียดขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อรัฐบาลกรุงปักกิ่งประกาศเมื่อเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว ที่จะเรียกเก็บภาษีอัตราสูงสุดที่ 218 เปอร์เซ็นต์ สำหรับไวน์ออสเตรเลีย โดยอ้างว่า มีการทุ่มตลาดของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
การดำเนินการเช่นนั้น ทำให้ยอดขายไวน์ออสเตรเลียในจีน ซึ่งเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด หดตัวหนักจากระดับราว 1,100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 840 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ลงมาเหลือเพียง 20 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียเท่านั้น
นอกจากไวน์แล้ว จีนยังดำเนินมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อสินค้าอื่นๆ ของออสเตรเลีย เช่น ข้าวบาร์เลย์ และผลิตภัณฑ์เกษตร รวมทั้งบริการด้านการท่องเที่ยวด้วย ทำให้ออสเตรเลียต้องยื่นเรื่องฟ้องต่อ WTO ไปบ้างแล้ว
วิถีตาต่อตา-ฟันต่อฟัน ระหว่างคู่ค้าทั้งสองนี้เริ่มต้นขึ้น หลังออสเตรเลียแสดงจุดยืนไม่ต้องการให้จีนขยายอิทธิพลเข้ามาสู่ภาคธุรกิจของตน รวมทั้งการที่ออสเตรเลียออกมาเรียกร้องให้มีการสืบสวนหาที่มาของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่เป็นต้นกำเนิดของวิกฤตโควิด-19 ซึ่งเริ่มจากจีนด้วย