นักวิเคราะห์ชี้ ความสัมพันธ์จีน-เกาหลีเหนือ ‘เริ่มตึงเครียด’

  • VOA

แฟ้มภาพ: คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เดินเคียงข้าง ปธน.สี จิ้นผิง ระหว่างการเยือนกรุงเปียงยางของผู้นำจีน เมื่อ 21 มิ.ย. 2562 (KCNA)

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและเกาหลีเหนือเริ่มแสดงภาวะตึงเครียดออกมาเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี หลังกรุงเปียงยางแสดงความไม่พอใจต่อแถลงการณ์ร่วมที่กรุงปักกิ่งลงนามและมีการพูดถึงความน่าจะเป็นของการปลดอาวุธนิวเคลียร์ด้วย

สัญญาณความตึงเครียดในความสัมพันธ์ของสองพันธมิตรนี้เริ่มแสดงออกมา ขณะที่ เกาหลีเหนือเดินหน้าความพยายามส่งดาวเทียมสอดแนมดวงที่ 2 ของตนขึ้นสู่อวกาศ ในช่วงที่ นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง กำลังเยือนกรุงโซลเพื่อร่วมการประชุมไตรภาคีกับผู้นำเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปีอยู่

SEE ALSO: จรวดส่งดาวเทียมเกาหลีเหนือระเบิดกลางอากาศ หลังปล่อยขึ้นไปไม่นาน

การส่งดาวเทียมของเปียงยางนั้นเกิดขึ้นหลังจากการประชุมไตรภาคีที่เมืองหลวงของเกาหลีใต้จบลงในช่วงค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่แผนงานนี้ของเกาหลีเหนือก็จบลงด้วยการระเบิดของเครื่องยนต์จรวดบรรทุกดาวเทียมไม่นานหลังถูกปล่อยจากพื้นดิน

และแม้บรรยากาศเช่นนี้จะเคยเกิดขึ้นมาก่อนในอดีต การที่เกาหลีเหนือจงใจสร้างสถานการณ์ก่อกวนเหตุการณ์ทางการเมืองสำคัญที่มีจีนซึ่งเป็นพันธมิตรผู้ใกล้ชิดและผู้สนับสนุนรายใหญ่ของตนร่วมด้วยนั้นเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเป็นเหมือนเหตุบ่งชี้รอยร้าวในความสัมพันธ์ที่ทั้งสองต่างย้ำมานานแล้วว่า “ใกล้กันเหมือนริมฝีปากและฟัน” ตามความเห็นของ จีน ลี ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีจากศูนย์ East-West Center ในฮาวาย

ลี กล่าวว่า ตน “คิดว่า สิ่งที่เรากำลังเห็นอยู่นั้นก็คือ รอยร้าวที่พร้อมจะแตกออกได้ทุกเมื่อ หากมีแรงกดดันเข้ามา”

จุดยืนที่น่าอึดอัด

สิ่งที่เกาหลีเหนือทำไปส่งผลให้นายกฯ หลี่ ของจีนต้องตกอยู่ในภาวะที่ทำอะไรไม่ถูก ขณะยืนเคียงข้างนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ และประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยูน ซุก ยอล ที่ต่างประณามกรุงเปียงยางกันอยู่

การประชุมไตรภาคี เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน

สถานการณ์เริ่มส่อแววน่าอึดอัดมากขึ้น เมื่อทั้งสามผู้นำออกแถลงการณ์ร่วมที่มีเนื้อหาเรียกร้องให้มีการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีซึ่งทำให้กรุงเปียงยางเดือดขึ้นมาทันที

กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ที่สื่อ Korean Central News Agency (KCNA) ของรัฐบาลเผยแพร่ออกมาและมีเนื้อความกล่าวหาทั้งสามประเทศว่า “ทำการล้อเลียนและใช้มารยาเสแสร้งแกล้งทำ” พร้อมประณามสิ่งที่ฝ่ายตนเรียกว่าเป็น “การท้าทายอย่างซึ่ง ๆ หน้า” ต่ออธิปไตยของตน และเป็น “การแทรกแซงที่ปราศจากความระมัดระวัง” ต่อกิจการภายในของเกาหลีเหนือด้วย

แม้แถลงการณ์นี้จะตั้งเป้าโจมตีเกาหลีใต้ที่เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดครั้งนี้ เนื้อหาก็ “แว้งจ้วงใส่จีนอย่างที่ไม่มีใครปฏิเสธได้” ด้วย ตามความเห็นของ เรเชล มินยัง ลี ผู้สังเกตการณ์ด้านเกาหลีเหนือและนักวิชาการอาวุโสจาก Stimson Center ที่กรุงวอชิงตัน

ลี ระบุในบล็อกที่โพสต์บน 38 North ซี่งเป็นเว็บไซต์ว่าด้วยเรื่องของเกาหลีเหนือ ว่า “ความสัมพันธ์ของเกาหลีเหนือกับจีนนั้นดูท่าว่าจะนิ่งลงในช่วงปีที่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา ที่มีสัญญาณว่าเริ่มจะเกิดปัญหาขึ้นแล้ว”

ทั้งนี้ จีนได้เรียกร้องให้มีการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีมานานแล้ว เช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ และพันธมิตรอื่น ๆ ส่งเสียงเรียกร้องออกมา

เกาหลีเหนือเองก็ยอมรับข้อเสนอการปลดอาวุธภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง ดังในตัวอย่างที่เกิดขึ้นในแถลงการณ์ร่วมที่ คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ลงนามพร้อมกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังการประชุมสุดยอดครั้งแรกของทั้งสองเมื่อปี 2018

ถึงกระนั้น เกาหลีเหนือกลับเปลี่ยนท่าทีของตนเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการเติมแผนงานพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ลงในรัฐธรรมนูญ ซึ่ง คิม จอง อึน ระบุว่า “ไม่สามารถเปลี่ยนย้อนคืนไปได้อีก” แล้ว

  • ที่มา: วีโอเอ