“สันติภาพมันไม่ได้อยู่ไกล ไม่ได้อยู่สุดขอบฟ้า หรือมันไม่ได้อยู่แผ่นดินที่ไกลๆ แต่มันอยู่ที่ในใจของเรา.. ทันทีที่ใจของเรามีสันติสุข นั่นแหละสันติภาพมันเกิดขึ้นแล้ว ..
ทุกก้าวย่างที่มุ่งเผยแผ่สันติสุข เริ่มต้นจากการเดินทางจากข้างใน
..เมื่อใจเรามีแต่สันติสุข มีแต่ความรัก ความเมตตา สันติภาพมันได้เกิดขึ้น เราก็ส่งความรัก ความเมตตา ให้ทุกคนในครอบครัว ให้ทุกคนในสังคม สันติภาพมันก็ขยายออกไปในครอบครัวในสังคม..
และเมื่อทุกๆครอบครัว ทุกสังคม ทำอย่างนี้ ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด เป็นอย่างนี้ ประเทศก็มีสันติภาพขึ้นมาได้ และเมื่อทุกๆประเทศช่วยกันทำให้ใจของตัวเองมีสันติสุข โลกก็เกิดสันติภาพขึ้นมาได้..”
เจตนารมณ์ของการส่งผ่านสันติสุขในจิตใจไปสู่การสร้างสันติภาพของมนุษยชาติ ได้รับการยืนยันอีกครั้ง ในภารกิจการเดินเท้าเพื่อรณรงค์สันติภาพ ของ พระสุธรรม นทีทอง หรือ พระสุธรรม ฐิตธัมโม พระสงฆ์ไทยที่ใช้การเดินบำเพ็ญเพียร จาริกไปในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ด้วยความมุ่งหวังที่จะส่งต่อสันติสุขไปสู่ผู้คนรายทางตลอดหลายปีที่ผ่านมา
การเดินเท้าบนแผ่นดินอเมริกา ของพระสุธรรมในครั้งนี้ต่างจาก 2 ครั้งก่อนหน้า เมื่อมีพระสงฆ์อีกหลายรูปร่วมเดินบำเพ็ญเพียรไปด้วยตลอดเส้นทาง โดยเริ่มต้นจากจุดใต้สุดของแผ่นดินอเมริกา ที่เมือง คีย์เวสต์ (Key West) รัฐฟลอริดา ตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ลัดเลาะขึ้นเหนือ บนเดินเท้าระยะทางกว่า 1 พัน 8 ร้อยไมล์ หรือเกือบ 3 พันกิโลเมตร มุ่งสู่ปลายทางที่ น้ำตกไนแองการา ของรัฐนิวยอร์ก สุดชายแดนสหรัฐฯและแคนาดา
พระวิจิตรธรรมภาณี (สุนันท์ ธนนนฺโท) เจ้าอาวาสวัดฟลอริดาธรรมาราม พระธรรมทูตจากเมืองไทยที่ลงหลักปักฐานเผยแผ่พระศาสนาในอเมริกามากว่า 3 ทศวรรษ เป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วม เดินเท้ากับพระสุธรรมและพระสงฆ์อีก 7 รูป มองว่า การออกธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ คือการได้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้บำเพ็ญเพียร บำเพ็ญตบะ ภายในตามหลักคำสอนในพระพุทธองค์
“ในเรื่องความหมายของธุดงค์จริงๆแล้วเป็นเรื่องของพระสมัยก่อนที่นำมาใช้ในการเดิน เดินไปในที่ต่างๆเพื่อไปเผยแผ่ธรรม.. ทีนี้การเดินนอกจากจะทำให้เราได้ปฏิบัติแล้ว ยังทำให้เราได้เห็นทุกขเวทนาเพราะการเดินนี่มันทำให้เกิดความรู้สึกว่ามันปวดมันปวดมันร้าว จริงๆคำว่าปวดมันร้าวมันเป็นร่างกายมันก็มาดูที่จิต ถ้าจิตเราเข้มแข็งมั่นคงพอ บางทีมันก็ก้าวล่วงตรงนี้ไปได้
.. แล้วเราก็คิดอยู่แล้วว่าถ้าเราเดินเที่ยวนี้ เราจะต้องพบปะคนหลากหลายมากมาย ก็เป็นอย่างที่คิด เราก็เจอคนระหว่างทางมากมายเยอะแยะ แล้วคนที่เขาเห็นเราเดิน เขารู้ว่าเราเดินเพื่อสันติภาพ เดินเพื่อแผ่ความรัก ความเอ็นดู ความห่วงใย การช่วยเหลือ การเอื้อเฟื้อต่อกัน คือโลกเรามันยังขาดในบางครั้ง แต่ได้คำตอบหนึ่งก็คือทุกชาติ ทุกภาษาที่ผ่านไป มีความรู้สึกอันเดียวกันเลยเค้าต้องการความสงบ ต้องการความเข้าใจ คือ ถ้าเราไม่เดินออกไปเราจะไม่รู้เลยว่ามันต่างกันยังไง..”
การเดินทางของคณะพระสงฆ์ไทยบนแผ่นดินสหรัฐฯ ได้รับความสนใจและการตอบรับจากทั้งชาวไทยในสหรัฐฯ และชาวอเมริกัน ติดตามตามแนวเส้นทางที่ขบวนจาริกเพื่อสันติภาพเคลื่อนผ่าน
ริค โยเดอร์ (Rick Yoder) ชาวเมืองสปริงฟิลด์ รัฐเวอร์จิเนีย ใช้โอกาสในช่วงที่พระสงฆ์ไทยเดินผ่านบริเวณทางตอนเหนือของรัฐเวอร์จิเนีย ขอร่วมเดินรณรงค์สันติภาพไปกับขบวนพระสงฆ์ไทย ที่มุ่งหน้าสู่ใจกลางกรุงวอชิงตัน
“ ผมคิดว่าเป็นความคิดที่ดี ทุกคนไม่ว่าคุณจะอยู่ฝ่ายไหนก็สนใจเรื่องสันติภาพ ดังนั้นผมถึงตื่นเต้นที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินเพื่อสันติภาพครั้งนี้ และผมคิดว่ามีความมหัศจรรย์เล็กๆ เกิดขึ้น เมื่อเราเดินเพื่อสันติภาพโดยเฉพาะการเดินของพระธุดงค์สายป่านั้น ได้สร้างสันติภาพในโลกขึ้นมาจริงๆ และอาจจะเชื่อถือได้มากกว่า การพูดคุย หรือ เจรจา หรือการพยายามพบปะกันเสียอีก นอกจากนี้ผมยังพบว่า วอชิงตัน ดี.ซี. มีความแตกแยกกันมาก แบ่งขั้ว ผมจึงต้องการทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้น ให้เราได้ร่วมมือกันเพื่อเป็นตัวแทนของทุกคน
ในช่วงการเดินเท้าผ่านนครหลวงของสหรัฐฯ คณะพระธุดงค์เพื่อสันติภาพ ได้รับการต้อนรับจากชาวชุมชนไทย และผู้ศรัทธราชาวอเมริกัน ที่เข้าร่วมจัดกิจกรรม ตักบาตร และถวายอาหารเพล ที่บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อแสดงจุดยืน สนับสนุน การริเริ่มที่ยิ่งใหญ่ของพระสงฆ์ไทย ในการส่งสันติสุข ไปยังผู้คนให้สำเร็จลุล่วง ท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั่วโลก
Your browser doesn’t support HTML5
เฮเธอร์ เพนน์ (Heather Payne ) ชาวเมืองมาแนสซัส จากรัฐเวอร์จิเนีย บอกว่า เธอติดตามการเดินทางเพื่อสันติภาพของพระสงฆ์ไทยผ่านเฟสบุ๊ค และคอยติดตาม สนับสนุนกิจกรรมตามที่ต่างๆมาหลายครั้ง เพราะเธอรู้สึกถึงความพิเศษที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนภารกิจเพื่อสันติภาพในครั้งนี้ เพราะที่ผ่านมา เธอก็จัดรณรงค์สันติสุขในชุมชนของเธออยู่เป็นประจำ
เนนเน่ คาร์ (Nnenna Carr) ชาวอเมริกัน จากเมืองอเล็กซานเดรีย ในเวอร์จิเนีย ที่ทราบข่าวการมาถึงของพระธุดงค์ชาวไทยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จึงตัดสินใจเดินทางมาพบและสนับสนุนภารกิจการเดินทางเพื่อสันติภาพ
“ ฉันรู้สึกได้เติมเต็ม เหมือนทำให้ฉันมีความเชื่อใหม่ ว่าเราจะยังโอเค เราจะไม่เป็นไร ฉันเองให้ความสำคัญกับสันติภาพและมนุษยชาติเป็นอย่างมาก และการที่ทุกคนอยู่ร่วมกัน ฉันคิดว่ามันเป็นวัตรปฏิบัติที่งดงามและเป็นพัความผูกพันธ์ที่งดงาม แม้บางสิ่งอาจเป็นไปได้ยาก แต่เราเพียงรับรู้ และลงมือทำ ด้วยความเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นได้จริง..
..เราต้องการสิ่งนี้มากๆ เราต้องการสันติภาพ ..ฉันก็เข้าใจว่าเรารู้สึกอย่างไรในฐานะมนุษย์และเราต้องการความสงบสุขมากเพียงใด และเราจำเป็นต้องร่วมมือร่วมใจ แม้ว่าจะมีความแตกต่างกัน แต่เพื่อจะสร้างโลกที่เราฝันถึง เราต้องทำ และฉันแค่รู้สึกว่านี่คือสิ่งที่สวยงาม ที่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ..โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมที่บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ สถานที่ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงต่างๆในอเมริกา เป็นสถานที่ที่ต้องเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ในอาคารรัฐสภา ที่มีผู้บัญญัติกฎหมายทำงานเป็นตัวแทนของเรา ที่นี่ควรเป็นสถานที่แรกของการเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่สันติภาพ
ด้านพระสุธรรม นทีทอง บอกกับวีโอเอ ว่า ได้ทำจดหมายเปิดผนึก ส่งผ่านไปยัง นายดาร์เร โซโต (Darren Soto) ส.ส. สหรัฐฯ จากรัฐฟลอริดา ถึงเจตนารมณ์ของการเดินเพื่อสันติภาพในครั้งนี้ หลังจากที่นักการเมืองสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต ให้ความสนใจระหว่างที่กลุ่มพระสงฆ์ไทยเดินผ่านรัฐฟลอริดา นอกจากนี้ยังนัดหมายกับกลุ่มพระสงฆ์ไทยให้เข้าพบที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ระหว่างเดินทางผ่านกรุงวอชิงตัน อีกด้วย
"เราก็อยากจะสะท้อนให้ให้คนที่มีอำนาจได้เห็นว่าประชาชนของเขาเนี่ยต้องการสันติภาพมันเฉพาะของรัฐบาลของวันนั้นดีหรือว่าของรัฐสภาแต่มันเป็นหน้าที่ของทุกคนแล้วก็พี่น้องประชาชนชาวอเมริกันเองเนี่ยก็ได้แสดงออกผ่านที่เราเดินเนี่ยเราจะนำเอาศาลมามอบให้เพราะว่าพี่น้องอเมริกันเนี่ยต้องการสันติภาพ" พระสุธรรม กล่าว
ไมเคิล วี (Michael Vi) ชาวอเมริกัน จากรัฐเวอร์จิเนีย บอกว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นบนโลก แต่สันติสุข คือสิ่งที่เราทุกคนต้องการ มันเป็นอะไรที่ทุกคนต่างต้องการเห็น และมีส่วนร่วมไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งการได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมต้อนรับ และสนับสนุนพระที่เดินธุดงค์เพื่อสันติภาพ ถือว่าพิเศษมากๆแล้วสำหรับผม..
...ความแตกต่างกันของผู้คนจำนวนมาก ทำให้อาจเกิดมุมในด้านลบขึ้นมามากกมาย แต่ในที่สุดแล้วจุดร่วมสำคัญที่สุดของมนุษย์ก็ยังคงอยู่ที่การอยู่ร่วมกันของทุกคน และแน่นอนว่า การเผยแผ่สันติสุขของพระสงฆ์ชาวไทย คือสิ่งที่น่าอัศจรรย์ และน่าชื่นชม
ขณะที่ วรรณี หลุยส์, ชาวไทยในอเมริกา จากรัฐฟลอริดา บอกว่า ประทับใจที่ได้สัมผัสถึงการเผยแผ่สันติสุขของพระสงฆ์ไทยไปยังผู้คนรายทางในอเมริกา หลากหลายเชื้อชาติที่ต่างออกมาสนับสนุนการเดินทางครั้งนี้ให้สำเร็จ
เช่นเดียวกับ ชุลีพร กลิ่นบุญ ชาวไทยจากรัฐเวอร์จิเนีย บอกว่าที่ประทับมีต่างชาติที่เป็นฝรั่งผิวขาวผิวดำยินดีต้อนรับท่านแล้วก็พยายามถวายของให้ท่านถวายน้ำถวายอาหารเป็นกำลังใจให้ท่านเดินทางไปตลอดก็จะมีคนโบกมือรู้สึกในอเมริกาปกติเราคิดว่าเราจะมีปัญหาเรื่องเชื้อชาติแต่ว่าท่านได้พิสูจน์ในประเทศนี้ก็ยังมีคนที่มีน้ำใจไม่ว่าจะเป็นศาสนาอะไรก็ถ้าเราทำโครงการร่วมกันจุดนี้
ขณะที่ จัสมิน หลุยส์ นักศึกษาเชื้อสายไทย วัย 19 ปี ที่มาร่วมสนับสนุนพระสงฆ์ในการเดินทางเพื่อสันติภาพ บอกว่า เป็นทางเลือกที่ดีที่พระสงฆ์ใช้เส้นทางผ่านทางกรุงวอชิงตัน และ ทางตอนเหนือของรัฐเวอร์จิเนีย เพราะที่นี่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง มีการประท้วงต่างๆอยู่บ่อยครั้ง แต่การถ่ายทอด บอกต่อเพื่อรณรงค์สันติภาพ น่าจะทำให้ผู้คนได้เข้าใจง่ายขึ้นถึงสิ่งที่เป็นอยู่
“ฉันมองไปรอบๆ ระหว่างจัดกิจกรรม ฉันเห็นผู้คยนให้ความสนใจ พูดคุย แลกเปลี่ยนในสิ่งที่เกิดขึ้น และนั่นคือประเด็นสำคัญของการมารวมกันในวันนี้ คือ การสร้างการตระหนักรู้ผ่านการรณงค์สันติภาพของพระสงฆ์ไทย”
ขบวนเดินเท้าของพระสงฆ์ไทยเพื่อรณรงค์สันติภาพโลก บนแผ่นดินสหรัฐฯ ที่เริ่มมาตั้งแต่ วันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา จากจุดใต้สุดของแผ่นดินอเมริกา ที่เมือง คีย์เวสต์ (Key West) รัฐฟลอริดา มีกำหนดเดินถึงปลายทางเหนือสุดติดชายแดนสหรัฐและแคนาดา ที่ น้ำตกไนแองการา รัฐนิวยอร์ก ในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2567 นี้ รวมระยะทางเดินเท้า ตลอดเวลา 90 วัน ประมาณ 1,800 ไมล์ หรือราว 3,000 กิโลเมตร และแน่นอนว่าการเดินทางของคณะนักบวชในพุทธศาสนากลุ่มนี้จะยังดำเนินต่อไป กับการเดินทางครั้งใหม่ ที่จะยังคงเต็มไปด้วยความเมตตา ความสงบ และสันติ ส่งผ่านไปถึงผู้คนรายจนกว่าจะถึงปลายทางแห่งสันติภาพ