"..ถ้าเราเดินทำความเพียรอย่างเดียว ก็ได้แต่ตัวเราคนเดียว ก็เลยคิดว่าถ้าเราเดินรณรงค์สันติภาพก็จะได้ยังประโยชน์แก่ผู้คนเพิ่มมากขึ้นอีก และในขณะเดียวกันก็ได้เดินไปในดินแดนที่เขาไม่เคยเห็นพระสงฆ์ ก็ยังเป็นการเผยแผ่พระศาสนาเพิ่มขึ้นอีก ก็เลยคิดว่าจะเดินรณรงค์สันติภาพรอบโลก เพื่อเผยแผ่พระศาสนาไปด้วย และทำความเพียรไปด้วย.."
พระสุธรรม ฐิตธัมโม หรือ พระสุธรรม นทีทอง พระสงฆ์ชาวไทย ให้สัมภาษณ์กับ 'วีโอเอ ภาคภาษาไทย' ย้อนถึงเหตุผลและแรงผลักดันที่ทำให้ตัดสินใจ “เดินธุดงค์เพื่อสันติภาพ” ข้ามประเทศสหรัฐอเมริกา จนกลายเป็นที่สนใจของชาวอเมริกัน ตลอดเส้นทางกว่า 3 พันกิโลเมตร ใน 11 รัฐของอเมริกา มาตั้งแต่เดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
แรงบันดาลใจจากการ 'เดินธุดงค์บำเพ็ญสมาธิ'
พระสุธรรม ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีหลังการบรรพชาที่วัดสวนโมกข์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จนพบแนวทางการปฏิบัติสมาธิและบำเพ็ญเพียรด้วยการเดินธุดงค์ ที่เชื่อว่าเข้าถึงหลักปฏิบัติสมาธิภาวนาที่มากขึ้น
"เราก็รู้สึกว่าเดินธุดงค์แล้ว ได้ปฏิบัติสมาธิไปอีกระดับหนึ่ง เวลาเรานั่งปฏิบัติสมาธิอยู่ในกุฎิก็ได้ในระดับหนึ่งนะ ก็ดีนะ แต่พอมาเดินมันได้มาอีกระดับหนึ่ง มันก้าวกระโดดไปอีกระดับหนึ่ง ยิ่งเดินมากขึ้นๆ แล้วรู้สึกว่าเราได้ทำความเพียรเพิ่มมาขึ้น ได้ประสบการณ์ในการที่จะปฏิบัติสมาธิภาวนา เพิ่มมากขึ้น หลังจากนั้นก็ไปเดินตามรอยบาทพระศาสดาที่อินเดีย 2,600 ไมล์ตามสถานที่ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยเสด็จทั้งหมด ก็ยิ่งมั่นใจว่าการเดินธุดงค์ ตรงกับจริตของเราในการปฏิบัติสมาธิภาวนามาก พอออกพรรษาตอนนี้ก็เดินตลอดเลย"
พอแล้วการเมือง
แม้จะเคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาหลายบทบาท แต่สำหรับในวันนี้ของพระสุธรรมฐิตธัมโม ทุกอย่างได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว
"เราเป็นนักศึกษารุ่น 14 ตุลา สมัยนั้นเป็นนักเรียนอยู่ก็ถูกหล่อหลอมด้วยอุดมการณ์สมัยนั้น พอจบจากธรรมศาสตร์ก็มาทำงานการเมืองเลย ก็ได้ทำตามอุดมการณ์ที่ตนเองตั้งใจไว้ แต่ว่าพอเราทำงานไปจนกระทั่ง 20 กว่าปีแล้วหันกลับไปมอง รู้สึกว่าสิ่งที่เราทุ่มเททั้งชีวิตมันกลับไม่ได้อะไรเลย ประเทศก็ยังย่ำอยู่ที่เดิม พอเรามาบวชก็รู้สึกว่าตอนที่เราเป็นนักบวชเราทำหน้าที่ทำประโยชน์ให้กับประชาชน ให้กับส่วนรวมได้มากกว่าการเป็นนักการเมือง ก็เลยคิดว่า 'พอแล้วการเมือง' "
เมตตานำทาง แคล้วคลาดปลอดภัย ด้วยไมตรี
การเดินธุดงค์เพื่อสันติภาพ อาจเป็นเรื่องใหม่ ในการรณงค์เชิงสัญลักษณ์ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน แต่ตลอดเส้นทางหลายพันไมล์บนแผ่นดินอเมริกา กลับได้รับการตอบรับในแง่บวกจากผู้คนรายทาง แม้ในบางแห่งจะได้ชื่อว่าเป็นจุดที่อันตรายและมีอาชญากรรมสูงสุดก็ตาม
"เราก็เดินผ่านมา ก็มีพี่น้องชาวเซ็นหลุยส์มาเดินกับเราด้วย แล้วเขาก็บอกว่า นี่ตรงนี้ เขาเกิดที่นี่ โตที่นี่ แต่ไม่เคยเดินผ่านตรงนี้เพราะว่าอันตรายมาก เขาเพิ่งได้เดินวันนี้ แต่พอเราเดินไป ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสกับเรา รวมทั้งมาขอถ่ายรูปกับเราด้วย แม้กระทั่งแถวบางที่ พอเราเดินผ่านไป ก็เห็นมีคนพกปืน เขาก็ทักทายกับเราด้วยดี กลายเป็นว่าในจุดที่ทุกคนคิดว่าเป็นอันตรายหรือว่าผู้คนไม่ดีกับเรา แต่ผู้คนกลับดีกับเราหมดเลยบางครั้งก็เห็นในจุดที่ ตำรวจกำลังจับคนร้ายอยู่ แล้วก็ตำรวจก็ถือปืนให้คนร้ายยกมือออกนอกรถ เราก็เห็นอยู่กับตา และก็เดินผ่านไปใกล้ๆ แต่ก็ไม่มีใครมีอันตรายกับเรา หรือแสดงท่าไม่ดีกับเราเลย"
คาดว่าพี่น้องไทยเดินร่วมขบวนสันติภาพ ที่ปลายทางในนิวยอร์ก
การเดินธุดงค์ของพระสุธรรมในครั้งนี้ เริ่มต้นจาก ริมฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค ที่ ซานต้าโมนิก้า ในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีจุดหมายสุดท้ายอยู่ที่อนุสาวรีย์ เทพีเสรีภาพ ริมฝี่งมหาสมทุรแอตแลนติค ในนครนิวยอร์ก ด้วยความคาดหวังว่าจะช่วยจุดประกายแห่งสันติภาพให้ผู้คนได้มีส่วนร่วมตระหนักถึงความสุข สงบ สันติ อย่างแท้จริง
"ในช่วงสุดท้ายก่อนถึง อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ก็จะเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่สนใจ ปั่นจักรยาน ขี่มอร์เตอร์ไซค์ไปด้วย คืออยากให้มีกิจกรรมที่หลากหลาย และกำลังคิดว่าจะเชิญชวนคนของศาสนาอื่นไปด้วย ทางคริสต์ ทางอิสลาม คือไปให้เป็นขบวนสันติภาพจากประเทศไทย ถ้ามีคนให้ความร่วมมือก็คงทำได้ อันนั้นขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยภายนอก ขึ้นอยู่กับคนอื่นแล้ว แต่คือเราคิด เราตั้งใจอย่างนั้น "